ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างวันที่ 23 เมษายน - 14 พฤษภาคม 2555 นายเสริมคุณซื้อหุ้น CMO ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น CMO ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2555 ของบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 67.14 ล้านบาท
และต่อมาในระหว่างวันที่ 8 สิงหาคม - 13 กันยายน 2555 นายเสริมคุณซื้อหุ้น CMO ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่น โดยอาศัยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจ่ายปันผลระหว่างกาล ปี 2555 และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ CMO ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งภายหลังจากที่บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแล้ว นายเสริมคุณได้จำหน่ายหุ้น CMO ที่ซื้อมางวดหลังนี้ออกไปทั้งหมด
การกระทำของนายเสริมคุณข้างต้นเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายเสริมคุณ เป็นเงิน 5,420,324 บาท
นอกจากนี้ เนื่องจากนายเสริมคุณได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งหุ้น CMO ที่ทำให้มีจำนวนหุ้นในการถือครองเกินกว่าและลดลงผ่านจุดร้อยละ 50 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด แต่นายเสริมคุณไม่ได้รายงานการเปลี่ยนแปลงจำนวนการถือครองหุ้น CMO ต่อ ก.ล.ต. ภายในเวลาที่กำหนด รวมทั้งเมื่อถือครองหุ้น CMO ผ่านจุดร้อยละ 50 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด นายเสริมคุณก็ไม่ได้จัดทำคำเสนอซื้อตามเกณฑ์การเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ จึงเป็นการทำผิดมาตรา 246 และ 247 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ
ดังนั้น คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายเสริมคุณทั้ง 2 กรณี เป็นเงิน 626,700 บาท และ 207,000 บาท ตามลำดับ