(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามดาวโจนส์ดีดตัวแรงรับมาตรการกระตุ้นศก.จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 21, 2015 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มรีบาวด์หลังจากวานนี้ปรับตัวลงไปราว 6 จุด เป็นไปตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 208 จุด หลังจากธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์(RRR)ลงอีก 1% หวังผลกระตุ้นเศรษฐกิจ

ปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวดึงให้ sentiment กลับมาเป็นบวก ส่งผลต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวในแดนบวก และเชื่อว่าจะมีผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยเช่นกัน พร้อมให้แนวต้าน 1,570-1,580 จุด แนวรับ 1,550 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(20 เม.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,034.93 จุด พุ่งขึ้น 208.63 จุด(+1.17%),ดัชนี
NASDAQ ปิดที่ 4,994.60 จุด เพิ่มขึ้น 62.79 จุด(+1.27%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,100.40 จุด เพิ่มขึ้น 19.22 จุด(+0.92%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 97.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 309.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 1.95 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.71 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.08 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.05 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(20 เม.ย.58) 1,560.32 จุด ลดลง 6.53 จุด(-0.42%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 59.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 เม.ย.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(20 เม.ย.58) ปิดที่ 56.38 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 64 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(20 เม.ย.58)ที่ 6.63 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.40/46 รอผลประชุม กนง.-FOMC ในสัปดาห์หน้า
  • ครม.ไฟเขียวมาตรการภาษีสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ลดภาษีให้กิจการที่ลงทุนในพื้นที่จาก 20% เหลือ 10% เป็นระยะเวลา 10 ปี คลังระบุรัฐไม่เสียรายได้ เหตุสนับสนุนกิจการใหม่ สำนักเลขาฯครม.หนุนมาตรการชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เอกชนเชื่อลดภาษีจูงใจลงทุนขยายธุรกิจ
  • ประคณะกรรมการติดตาม และตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ(คตร.)รายงานผลการตรวจสอบโครงการลงทุนภาครัฐที่มูลค่าลงทุนเกินกว่า 50 ล้านบาท ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมาย พบว่ามีทั้งสิ้น 832 โครงการ มูลค่า 1.25 แสนล้านบาท เบิกจ่ายไปแล้ว 4.67 หมื่นล้านบาท และยังคงมีโครงการบางส่วนที่ยังไม่ได้เริ่ม
  • คลังตั้งคณะทำงานพิจารณากู้เงินสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 วงเงินไม่เกิน 8 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบริหารจัดการน้ำระยะเร่งด่วน 3.76 หมื่นล้านบาท และโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน 4.06 หมื่นล้านบาท โดยจะเบิกจ่ายปี 2558 จำนวน 3.29 หมื่นล้านบาท ปี 2559 จำนวน 3.97 หมื่นล้านบาท และปี 2560 จำนวน 5,583 ล้านบาท ทั้งนี้ 70% ของโครงการจะทำเสร็จภายใน 1 ปี และก่อหนี้ผูกพันได้หมดภายในเดือน มิ.ย. 2558
  • ครม.ปลดล็อกตั้งโรงงานน้ำตาลย่นระยะห่างจาก 80 กม. เหลือ 50 กม. ให้อำนาจ สอน.ตั้ง-ย้าย-ขยายโรงงาน แทน ครม. เพื่อความรวดเร็วเหตุเกษตรกรแห่ปลูกอ้อย ผลผลิตเกินกำลังผลิต ตั้งกฎโรงงานใหม่ต้อง ไม่ซ้ำโควต้าของเดิม-ชาวไร่ใหม่ กันแย่งวัตถุดิบ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • IFEC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 18 บาท ราคาหุ้นวานนี้ลงแรง -12.4% จาก Sentiment เชิงลบตลาดหุ้นเอเซีย แต่ปัจจัยพื้นฐานยังแกร่ง จาก Conference Call กับผู้บริหารยืนยันว่าไม่มีปัจจัยลบที่กระทบ พร้อมคาด 1Q58 กำไรสุทธิ 20 ล้านบาทหลังรับรู้โซลาร์ฟาร์ม เทียบกับ 4Q57 ขาดทุนสุทธิ 15 ล้านบาท และ 1Q57 ขาดทุนสุทธิ 6 ล้านบาท แนวโน้มจะยกฐานกำไรขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H58 จากทยอยรับรู้โซลาร์ฟาร์มกัมพูชา 20MW แรกและโรงไฟฟ้าพลังลม 10 MW ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และจะขึ้น XD หุ้นปันผล 20:1 วันที่ 14 พ.ค. และ XW 4:1 วันที่ 25 มิ.ย.
  • SCB(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 218 บาท ราคาหุ้นน่าสนใจที่สุด กำไรดีกว่าคาด +7.5% Q-Q และทรงตัว Y-Y แม้จะมีค่าใช้จ่ายคดีสจล. 1.5 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการนี้ กำไรสุทธิเพิ่ม 17% Q-Q และ 9% Y-Y จากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยและเงินให้สินเชื่อที่ดีกว่าคาด ขณะที่ NPL ทรงตัว SCB สร้างเซอร์ไพร้ส์ในทางบวกขณะที่ราคาหุ้น underperformed ที่สุดในกลุ่ม -6% YTD (กลุ่ม -0.2% YTD)
  • KBANK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 260 บาท กำไรเป็นไปตามคาด +24% Q-Q, +4% Y-Y รายได้หลักถือว่าทำได้ดีโดยเฉพาะรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ขณะที่ NPL ขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 2.24% เป็น 2.26% แต่ Coverage ratio ยังแกร่งที่ 140%
  • TCAP(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 43 บาท กำไรเป็นไปตามคาด -2% Q-Q จากการตั้งสำรองฯที่สูงขึ้น และทรงตัว Y-Y สำหรับ NPL ลดลงอย่างน่าพอใจ 6% Q-Q และ Coverage ratio เพิ่มเป็น 88.9% จาก 84.8% สิ้นปีก่อน ความน่าสนใจในด้านการเติบโตของสินเชื่อและกำไรยังไม่มี
  • WHA(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"กำไรสุทธิปี 58-59 จะเติบโตได้แข็งแกร่งหลังจากทำงบการเงินรวมกับ HEMRAJ และเชื่อว่าจะมี Synergies Benefit จากการควบรวมกิจการครั้งนี้ เพราะทาง WHA มีความเชี่ยวชาญด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์ ขณะที่ HEMRAJ มีความโดดเด่นในเรื่องนิคมอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภค

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ