"หลังจากนี้ไป FERRUM จะเป็นกลุ่มธุรกิจ ที่มีการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง อีกทั้งจะสามารถทำให้บริษัทมีความคล่องตัว พร้อมทั้งผลักดันรายได้และผลตอบแทนของบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต"นายประสิทธิ์ กล่าว
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะนั้น เป็นการดำเนินงานของบริษัท เอ็มลิ้งค์ เอ็นเนอร์ยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ร่วมทุนกับบริษัท สามารถ ยูทรานส์ จำกัดฝ่ายละ 50% เพื่อผลิตไฟฟ้าขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยใช้ชื่อ บริษัท เชียงใหม่ เวสท์ทูเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งคาดว่าจะเซ็นสัญญาซื้อขยะกับบริษัทเอกชนในเชียงใหม่ ได้ภายในเดือนพ.ค.นี้ เพื่อเดินหน้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ และขายไฟให้กับกฟภ.ในปี 60
ขณะเดียวกันยังได้จัดตั้งบริษัท เอ็มลิ้งค์ คิวไออาร์ จำกัด ขึ้นมาเพื่อขายสินค้าและบริการให้กับบริษัทในประเทศเวียดนามและบริษัทในไทย โดยบริษัท ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 60% และบริษัท ควอนตัม ไออาร์ เทคโนโลจีส์ จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 40%
นายประสิทธิ กล่าวว่า ควอนตัม ไออาร์ เทคโนโลจีส์ นับว่ามีความเชี่ยวชาญในธุรกิจจัดหา ติดตั้ง และให้บริการระบบกล้อง และระบบการจับน้ำมันรั่วอัจฉริยะ ซึ่งกลุ่มลูกค้า ได้แก่ กลุ่มบริษัทน้ำมันในภูมิภาค CLMV โดยปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการให้บริการกับทาง PetroVietnam ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/58 มูลค่าโครงการรวมทั้งโครงการประมาณ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ สนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนในระดับรากหญ้าได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งบริษัทได้เตรียมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปล่อยสินเชื่อไว้พร้อมแล้ว และหากได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บริษัทก็พร้อมเข้ารุกธุรกิจนี้ได้ทันที
รวมทั้งยังอยู่ระหว่างศึกษาเตรียมจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจขนส่งภาคพื้นดิน โดยกลุ่มบริษัทมุ่งเน้นให้ลูกค้าเกิดความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมทั้งรับรองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อเป็นการยกระดับชีวิตคนไทยทุกคนและในส่วนของ MSeed Asia ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจใหม่ของบริษัทที่ขยายมาสู่การพัฒนาเกมนั้น ในปีนี้คาดว่าจะสร้างได้รายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท