อย่างไรก็ตาม บริเวณ 1,220 เหรียญต่อทอยออนซ์ เป็นแนวต้านสำคัญที่เคยทดสอบแล้วยังไม่ผ่าน ดังนั้นหากมีปัจจัยหนุนใหม่ อาทิ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ จ เหลือเพียงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และตัวเลขยอดซื้อขายสินค้าคงทนในค่ำวันศุกร์ และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม FOMC ซึ่งตลาดรอลุ้นผลการประชุมว่าธนาคารกลางสหรัฐจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วก่อนสิ้นไตรมาส 3 หรือไม่ ซึ่งถ้าออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดก็จะส่งผลบวกต่อราคาทอง
ส่วนการปรับตัวลดลงของราคาทองคำโลกอยู่ที่ 1,186.86 เหรียญต่อทอยออนซ์ ปรับลง 13.18 เหรียญต่อทอยออนซ์ หลังการประกาศตัวเลขยอดซื้อขายบ้านมือสองของสหรัฐโตขึ้น 6.1% ส่งผลให้มีความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นเพิ่มขึ้นและเกิดแรงขายในสินทรัพย์ปลอดภัย
อีกทั้งการปรับลดลงหลุดแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,190 เหรียญต่อทอยออนซ์ ทำให้เกิดแรงขายของนักเก็งกำไรระยะสั้น โดนมีแนวรับสำคัญถัดไปบริเวณ 1,175 เหรียญต่อทอยออนซ์ และตลาดรอการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC)ช่วงกลางสัปดาห์หน้า คาดว่าจะมีการหารือถึงระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ
ดังนั้น จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนทอง สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้นชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอดูสัญญาณกลับตัวก่อน โดยแนวรับสำคัญอยู่บริเวณ 1,175 เหรียญต่อทอยออนซ์ หรือใกล้เคียง ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ยังแนะนำให้ถือหรือเป็นจังหวะให้เข้าสะสมทองคำแท่งเมื่อราคาต่ำกว่า 18,300 บาท เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 19,000 บาทขึ้นไป