คดีนี้สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคลทั้ง 4 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2549 โดยตัวการ 3 รายเป็นอดีตผู้บริหาร POWER-P ได้แก่ นายราชศักดิ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายพงษ์ศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการเงินและการบัญชี นางสาวศิริพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงานของบริษัท กรณีร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการจัดทำงบการเงินประจำปี 2547 ของ POWER-P ไม่ถูกต้อง หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยรับรู้รายได้จากการให้บริการศึกษาความเป็นไปได้และจัดหาแหล่งเงินให้แก่โครงการก่อสร้าง ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการดำเนินการดังกล่าวจริง เพื่อลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิด ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
ขณะที่นายคมกริช เป็นผู้สนับสนุนหรือช่วยเหลือการกระทำข้างต้น ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 312 ประกอบมาตรา 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2557 ศาลอาญามีคำพิพากษาว่า นายราชศักดิ์ นายพงษ์ศักดิ์ และ นางสาวศิริพร มีความผิดตามมาตรา 306 และ 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้ลงโทษจำคุกคนละ 8 ปี และให้นายราชศักดิ์ คืนเงินผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นจำนวน 878,169.19 บาท ส่วนนายคาเชน หรือคมกริช หรือ ชิษณุชา มีความผิดตามมาตรา 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้ลงโทษจำคุก 8 ปี