"ปีนี้ ไม่มีค่าเสื่อม 2G เท่ากับว่ากำไรเราปีนี้จะดีขึ้น 2 พันล้านบาท"นายศุภชัย กล่าว
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน TRUE คาดว่า ในปีนี้กำไรก่อนหักภาษีดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะเติบโต 9-10% จากปีก่อนที่มี EBITDA ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้คาดว่าจะเติบโตใกล้ 10% จากปีก่อนมีรายได้จากการให้บริการ 6.7 หมื่นล้านบาท และคาดว่า EBITDA Margin อยู่ที่ 35% สูงขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 30%
ขณะที่วันนี้มีข่าวลือทั่วห้องค้าว่าผลประกอบการไตรมาส 1/58 ของTRUE ออกมาขาดทุนนั้น นายนพปฎล กล่าวว่า เป็นข่าวลือที่ออกมาทุบหุ้น ไตรมาส 1/58 ทรูไม่ได้ขาดทุนแต่อย่างใด ขอให้ผู้ถือหุ้นอย่าเชื่อข่าวลือดังกล่าว
นายนพปฎล กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน หนี้สินของ TRUE ลดลงเหลือ 4 หมื่นล้านบาทในรูปหุ้นกู้ หรือมีอัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA ที่ 1.6 เท่า จากเดิมมีหนี้สินสูงถึง 1 แสนล้านบาท หรือมีอัตราส่วนสูง 11.5เท่า จากปกติจะมีอัตราส่วนราว 2 เท่า โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 3.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะแบ่งไปใช้ขยายโครงข่าย 4G จำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท
อนึ่ง วันนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น TRUE อนุมัติแผนล้างขาดทุนสะสม โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้(พาร์)จาก 10 บาท/หุ้น เหลือ4บาท/หุ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทกลับมาสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในปีนี้ ส่วนขะจ่ายปันผลระหว่างกาลได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการทำกำไร
ขณะที่นายศุภชัย กล่าวว่า ทรูโมบายตั้งเป้าหมายจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 1 ใน 3 หรือ มีมาร์เก็ตแชร์ราว 33% จากปัจจุบันอยู่ที่ 18-19% แต่คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย2-3 ปี เพราะยังมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือไนระบบ 2G อยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาทรูก็พยายามทำการตลาดด้วยการนำเครื่อง 3G ไปสวอปกับเครื่อง 2G หรือขายให้ในราคาถูกลง โดย ณ วันนี้มีผู้ใช้แอพลิเคชั่นไลน์ในไทยเพียง 14 ล้านคน จากประชากรรวม 67 ล้านคน โดยสิ้นปี 57 ทรูโมบายมีลูกค้า 23.6 ล้านราย
บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าแบบรายเดือน(post paid) ให้เติบโตขึ้น ซึ่งปัจจุบันมี 3.9 ล้านรายแซงหน้าดีแทคราว 7 หมื่นรายในปีที่แล้ว โดยรายได้เฉลี่ยจากลูกค้าแบบรายเดือนอยูที่ประมาณ 500-600 บาท/เลขหมาย ส่วนรายได้แบบเติมเงิน(prepaid) อยู่ประมาณ 100 บาท/เลขหมาย/เดือน พร้อมทั้งทั้งควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัทต่อเนื่อง และมีแผนเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาคซึ่งเล็งจะขยายธุรกิจไปที่สิงคโปร์ที่สามารถครอบคลุมการบริการได้ทั่วถึงได้ง่าย ขณะที่คู่แข่งอย่างเอไอเอสและดีแทคต่างก็เป็นผู้เล่นในระดับภูมิภาคแล้ว
"TRUE แข็งแรงแล้ว อาจจะ 2-3 ปีข้างหน้าคงมองว่าเราจะเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาค"นายศุภชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นปี 57 ทรูบรอดแบนด์เป็นอันดับหนึ่งมีฐานลูกค้าที่ 2.1 ล้านราย และทรู วิชั่นส์ ซึ่งเป็นทีวีแบบบอกรับสมาชิกก็เป็นอันดับหนึ่งมีฐานลูกค้า 2.5 ล้านราย โดยในปีนี้ทรูจะเข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ(EPL) ที่เลื่อนไปเป็นเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้และบริษัทมีความตั้งใจจะชนะการประมูลบนราคาสมเหตุสมผล ซึ่งจะประมูลสิทธิถ่ายทอด 3 ปีเริ่มฤดูกาลปี 59
นอกจากนี้ จะร่วมมือกับ China Mobile พัฒนาแอพพลิเคชั่นและคอนเท้นท์ที่จะนำเสนอขายในจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ คาดว่าออกสู่ตลาดภายในปีนี้ โดย China Mobile มีฐานลูกค้า 800 ล้านคน นอกเหนือจากนี้ยังร่วมมือจัดซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมในราคาต่ำกว่าตลาดราว 10% ทำให้ทรูมีอำนาจต่อรองมากขึ้นรวมทั้งร่วมกันโรมมิ่งระหว่างกันซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากจีนเข้ามมาในไทยจำนวนมาก
นายศุภชัย กล่าวว่า ทรูสนใจเข้าร่วมประมูล 4G ทั้งคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิร์ตซ และความถี่ 1800 เมกะเฮิรต์ซ แต่เห็นว่าควรนำคลื่น 2600 เมกะเฮิร์ตซ และ 1800 เมกะเฮิร์ตซในมือรัฐวิสาหกิจรวมประมูลในคราวเดียวกัน เพราะคลื่นที่นำมาประมูล 4G น้อยเกินไป