สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (20 - 24 เมษายน 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 468,589.43 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 93,717.89 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 230% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 60% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 282,007 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน)
ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 133,556 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 9,741 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A (อายุ 4.1 ปี) LB21DA (อายุ 6.7 ปี) และ LB236A (อายุ 8.2 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 33,852 ล้านบาท 31,301 ล้านบาท และ 10,489 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด รุ่น MPSC19OA (Non-Rated) มูลค่าการซื้อขาย 2,147 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) รุ่น CPF163A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 818 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) รุ่น SCC184B (A(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 529 ล้านบาท
ราคา (Price) ของพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นในตราสารทุกช่วงอายุ หรือผู้ซื้อจะได้ผลตอบแทน (Yield) ลดลง ประมาณ 0.01% -0.13% หากเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 1% ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ได้นับเป็นการปรับลดอัตราส่วน RRR เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดไปแล้ว 0.5% เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาวะชะลอตัว ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 28-29 เม.ย. และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 เม.ย. ยังเป็นที่น่าติดตามในช่วงอาทิตย์ถัดไป
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (20 เม.ย. - 24 เม.ย. 58) มีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้รวมสุทธิ 714 ล้านบาท โดยเงินไหลเข้าจากตราสารหนี้ระยะยาว (อายุคงเหลือ > 1 ปี) ประมาณ 4,462 ล้านบาท ขณะที่ไหลออกจากตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุน้อยกว่า 1 ปี) ประมาณ 3,748 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (20 - 24 เม.ย. 58) (16 - 17 เม.ย. 58) (%) (1 ม.ค. - 24 เม.ย. 58) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 468,589.43 142,192.02 229.55% 6,381,538.89 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 93,717.89 71,096.01 31.82% 85,087.19 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 109.53 108.85 0.62% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 107.92 107.6 0.30% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (24 เม.ย. 58) 1.73 1.72 1.73 1.9 2.18 2.54 3 3.63 สัปดาห์ก่อนหน้า (17 เม.ย. 58) 1.74 1.74 1.74 1.97 2.28 2.67 3.07 3.69 เปลี่ยนแปลง (basis point) -1 -2 -1 -7 -10 -13 -7 -6