สำหรับปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในไทยและเอเชียคือ ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่อนข้างแข็งแกร่ง และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นไทยยังซื้อขายที่ระดับ P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นในภูมิภาค และการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างประเทศอยู่ระดับต่ำจึงมีโอกาสที่การไหลเข้าของเม็ดเงินเพิ่มได้ในอนาคต
ส่วนหุ้นจีนและญี่ปุ่นมีอัตราการเติบโตที่ดีในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา จากปริมาณการซื้อที่มากขึ้น ซึ่งสามารถทำกำไรในระยะสั้นได้ ตัวอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นที่น่าสนใจ ซึ่งได้รับประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ได้แก่ กลุ่มส่งออก (รถยนต์ อาหาร เสื้อผ้า) กลุ่มท่องเที่ยว และไอที และกลุ่มอุตสาหกรรมของจีนที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ ได้แก่ กลุ่มก่อสร้าง Infrastructure กลุ่ม Finance รวมถึงกลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิรูปโครงสร้าง (China Reform)
สำหรับกองทุนเปิด SI5A3 จะทยอยรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ถือหน่วยลงทุน 2 ครั้งภายใน 5 เดือนแรก โดยครั้งแรกเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.35 บาทขึ้นไป บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ไม่ต่ำกว่า 0.30 บาทต่อหน่วยลงทุน และครั้งที่สองเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน 10.60 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกันและทรัพย์สินเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ในอัตราไม่ต่ำกว่า 105% ของมูลค่าที่ตราไว้ที่ 10 บาท และบริษัทจะเลิกโครงการกองทุนดังกล่าว
แต่หากเกิน 5 เดือน กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และกองทุนยังคงตั้งเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุน 5 %ต่อไป
กองทุนเปิด SI5A3 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสของผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตราสารทุนทั้งในและต่างประเทศและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ และการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในต่างประเทศ