นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติ ของ PTT กล่าวว่า ตามที่ผู้ผลิตแหล่งก๊าซฯ ซอติก้าในสหภาพเมียนมาร์ได้มีแผนดำเนินการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ประจำปี ณ แท่นผลิตในทะเล และระบบท่อฯ บนบก เป็นระยะเวลา 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 20-27 เม.ย.58 ขณะนี้การซ่อมบำรุงแล้วเสร็จ ผู้ผลิตได้จ่ายก๊าซฯ กลับเข้าสู่ระบบตามปกติแล้ว ตั้งแต่เวลา 22.19 น. ของวันที่ 27 เม.ย.58
ตลอดช่วงการซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ในสหภาพเมียนมาร์ ทั้ง 3 แหล่งในช่วงเดือนเม.ย. ประกอบด้วย แหล่งก๊าซฯ ยาดานา และ แหล่งก๊าซฯ เยตากุน ระหว่างวันที่ 10-19 เม.ย. ส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯ ขาดจากระบบรวม 1,200 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และ แหล่งก๊าซฯ ซอติก้า ระหว่างวันที่ 20-27 เม.ย. ส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯขาดจากระบบ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
ปตท.ได้จัดหาเชื้อเพลิงสำรองสำหรับโรงไฟฟ้าไว้ล่วงหน้า มีปริมาณการใช้น้ำมันเตาสะสมทั้งหมดอยู่ที่ 112 ล้านลิตร (จากปริมาณสำรอง 144 ล้านลิตร) และการใช้น้ำมันดีเซล อยู่ที่ 13 ล้านลิตร (จากปริมาณสำรอง 100 ล้านลิตร) ส่งผลให้โรงไฟฟ้าทุกแห่งสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ตามปกติ แม้จะเป็นช่วงที่อากาศร้อนและมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของปี ยังรองรับความต้องการใช้พลังงานได้โดยไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ก๊าซฯ ทั้งภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม หรือภาคขนส่ง
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังมีแหล่งก๊าซฯ อื่นที่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบและอุปกรณ์ประจำปี ได้แก่ แหล่งก๊าซฯ พื้นที่พัฒนาร่วมไทย–มาเลเซีย โดยจำเป็นต้องแบ่งการซ่อมบำรุงออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 เป็นการทำงานเพื่อติดตั้งแท่นและอุปกรณ์เพิ่มความดันก๊าซฯ เพื่อรักษาความสามารถในการจ่ายก๊าซฯ ให้เป็นไปตามสัญญา โดยจะดำเนินการในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.58 และช่วงที่ 2 เป็นการทำงานต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1/59 โดยเป็นการเชื่อมต่อระบบต่างๆ กับแท่นผลิตหลัก
สำหรับแผนการซ่อมบำรุงครั้งนี้ปตท. ได้เตรียมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ผลิต ภาครัฐ และผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดเช่นเดิม และคาดว่าผู้ผลิตจะสามารถดำเนินการซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ได้ตามแผนที่วางไว้ ในส่วนของสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) ได้มีการเตรียมแผนจัดหา NGV เพื่อทดแทนในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมทั้งจะมีการติดดามสถานการณ์ประจำวันเพื่อบริหารพลังงานทุกประเภทอย่างดีที่สุด