“กรุงศรีได้จัดทำแผน 3 ปี ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งสะท้อนการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค กฎระเบียบของทางการ และโอกาสในการขยายธุรกิจ กอปรกับกลยุทธ์เพื่อการเติบโตระดับสากลของ MUFG"นายโกโตะ กล่าว
ทั้งนี้ หนึ่งในยุทธศาสตร์ตามแผน 3 ปี (58-60) คือการผลักดันการเติบโตของสินทรัพย์จากปัจจุบันมีสินทรัพย์รวม ณ 31 มี.ค. 58 อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท โดยธนาคารมองถึงการซื้อกิจการเข้ามาเพิ่มเพื่อเป็นการขยายขนาดของสินทรัพย์ของธนาคารให้เติบโตขึ้น หากว่ามีข้อเสนอที่ดีเข้ามาและธนาคารมีความสนใจและไม่ปิดโอกาสในการเข้าซื้อกิจการใหม่เข้ามาเพิ่มเติม
นายโกโตะ กล่าวว่า สำหรับ MUFG oyho ภูมิภาคเอเชียเป็นตลาดที่สำคัญเป็นอันดับที่สองรองจากญี่ปุ่น กรุงศรีจึงเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับการขยายธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของ MUFG ในเอเชีย ซึ่ง BAY จะต่อยอดความแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าบรรษัทญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ รวมถึงฐานลูกค้าในกลุ่มดังกล่าว อีกทั้งใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของ MUFG ในธุรกิจ Global Markets ธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศและสินเชื่อซัพพลายเชน
สำหรับกลุ่มธุรกิจธนพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC) ที่จัดตั้งขึ้นใหม่เมื่อต้นปีนั้น BAY สามารถต่อยอดความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในกลุ่มลูกค้าบรรษัทญี่ปุ่น ด้วยประโยชน์จากเครือข่ายสาขาและฐานลูกค้าในประเทศของกรุงศรี ทั้งนี้ ในกลุ่มลูกค้าบรรษัทข้ามชาติ เรามีเป้าหมายที่จะเป็นธนาคารที่ได้รับการชื่นชอบมากที่สุดจากบรรษัทข้ามชาติที่ดำเนินธุรกิจในไทย ด้วยกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าผ่านเครือข่ายธุรกิจระดับสากลของ BTMU
ในส่วนของธุรกิจรายย่อย BAY ตั้งเป้าที่จะรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย อีกทั้งเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ผ่านนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ผนวกกับกลยุทธ์ในการเป็นพันธมิตรกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่กลยุทธ์ในการรุกธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV นั้น BAY จะเป็นหัวขบวนในการขยายธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อการบริโภคและไมโครไฟแนนซ์ ขณะเดียวกันก็จะใช้ประโยชน์ จากเครือข่ายของ BTMU ในการให้บริการทางการเงินสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ยกเว้นในประเทศลาวซึ่งกรุงศรีจะนำหน้าในการขยายธุรกิจทั้งในส่วนของกลุ่มลูกค้าธุรกิจและรายย่อย
“เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ธนาคารมีแผนลงทุนเพื่อขยายช่องทางในการให้บริการให้ครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และความเป็นเลิศของระบบปฏิบัติการ โดยมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ 100 สาขาและติดตั้งเครื่อง ATM ใหม่ 2,000 เครื่องทั่วประเทศ" นายโกโตะ กล่าวเพิ่มเติม
นายโกโตะ กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่า ขณะนี้ยังคงมีความเสี่ยงในการที่จะมีการปรับประมาณการณ์ตัวเลขอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ลดลงจากที่ธนาคารคาดว่าว่าจะเติบโต 3.3-3.8% เป็นผลมาจากการส่งออกที่ยังไม่เติบโต รวมทั้งการลงทุนและการเบิกจ่ายภาครัฐยังไม่ออกมากระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชน ขณะที่การบริโภคภายในประเทศยังคงชะลอตัว โดยในไตรมาส 1/58 ที่ผ่านมาสินเชื่อรวมของธนาคารโดยไม่รวมการควบรวมกับ BTMU สาขากรุงเทพฯ ยังคงติดลบเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ปัจจัยความเสี่ยงการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยนั้นคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มรายย่อยและกลุ่ม SMEs ที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจมากกว่ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามธนาคารก็ยังคงมีการระมัดระวังในการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ ในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้น อีกทั้งธนาคารยังมั่นใจว่าสินเชื่อรวมในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7-9%ขณะเดียวกันการตั้งสำรองพิเศษในปีนี้ของธนาคารยังไม่มี มีเพียงแต่การตั้งสำรองปกติตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เท่านั้น