นายอุปกรม ทวีโภค กรรมการบริหาร ของ TRT ในฐานะฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมกิจการร่วมค้า และนายจิระเดช สินอนันต์กุล กรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.ดี.เอส. เมทัลเวิร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ร่วมกันแถลงว่า ก่อนหน้านี้ บริษัท แอล.ดี.เอส. เมทัลเวิร์ค จำกัด ได้รับงานจาก บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด ให้ก่อสร้างสายพานลำเลียงขี้เถ้า และยิปซั่ม มูลค่ารวม 448 ล้านบาท เริ่มงานตั้งแต่กลางปี 57 และกำหนดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/58
ต่อมา บริษัท แอล.ดี.เอส. เมทัลเวิร์ค จำกัด ได้ร่วมกับ บริษัท เอ็น.ดี.พี. เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จัดตั้งกิจการร่วมค้า แอล.ดี.เอส.-เอ็น.ดี.พี โดยมีสัดส่วน 60:40 ร่วมประมูลงานดำเนินการและบำรุงรักษาระบบสายพานขนถ่ายดินเส้นที่สองของโรงไฟฟ้าหงสา และได้รับงานเป็นผู้ดำเนินงานตามสัญญาดังกล่าว โดยสัญญานี้มีมูลค่ากว่า 1,316 ล้านบาท ระยะเวลารวม 4.5 ปี สิ้นสุดสัญญาในเดือน ธ.ค.62 และหากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงในปีที่ 61 ก็จะสามารถต่อสัญญาการดำเนินการ และบำรุงรักษาระบบสายพานขนถ่ายดินเส้นที่ 2 ไปได้อีก
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ TRT กล่าวว่า บริษัทได้ประกาศแผนธุรกิจ 5 ปี (ปี 56-60) ตั้งเป้าการขยายขอบเขตธุรกิจทั้งด้านการผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับระบบการผลิต และส่งต่อพลังงานไฟฟ้าให้มีรายได้รวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจอื่นจะดำเนินการผ่านทางบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ถิรไทย อี แอนด์ เอส จำกัด , บริษัท แอล.ดี.เอส. เมทัลเวิร์ค จำกัด เป็นต้น จะมีสัดส่วนประมาณ 30% ของรายได้รวม
ในส่วนของบริษัท แอล.ดี.เอส. เมทัลเวิร์ค จำกัด ก็ได้ดำเนินการมีความคืบหน้ามาเป็นลำดับ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการผลิตชิ้นงานและโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด ให้เป็นผู้ดำเนินงานก่อสร้างสายพานลำเลียงขี้เถ้าและยิปซั่ม ซึ่งงานลักษณะนี้ มักจะให้บริษัทจากต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการ
"นับเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้มีโอกาสเติบโตในธุรกิจนี้อย่างก้าวกระโดดต่อไป ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าที่จะเกิดใหม่ตามแผนพัฒนา PDP ซึ่งจะประกอบด้วยโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ตลอดจนโรงไฟฟ้าพลังงานขยะมูลค่ารวมหลายหมื่นล้านบาทซึ่งจะเป็นฐานตลาดขนาดใหญ่ของธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง"นายสัมพันธ์ กล่าว