อนึ่ง เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมประมูล 2 ราย คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า JVCC (บริษัทในกลุ่มบมจ.ช.ทวี ดอลลาเชียน หรือ CHO) และ บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด ได้เสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
นางปรานี กล่าวว่า ส่วนการจัดหารถโดยสารปรับอากาศที่ใช้ NGV ล็อตถัดไปจำนวนกว่า 2.6 พันคันคงต้องชะลอไปก่อน เพราะรมว.คมนาคมต้องการให้ใช้รถที่เชื้อเพลิงที่เป็นพลังงานทางเลือก เช่น รถไฟฟ้า แต่ราคายังสูงอยู่ ประมาณคันละ 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขสมก.จะนำรถเก่าไปปรับสภาพจำนวนกว่า 600 คันคาดใช้เงินประมาณ 4-5 แสนบาท/คัน โดยขสมก.จะว่าจ้างบริษัทที่เคยสั่งซื้อรถเมล์ ซึ่งขสมก.ใช้รถเมล์มานาน 20 ปีแล้ว คาดว่าการปรับสภาพรถครั้งนี้จะยืดอายุการใช้งานได้มากกว่า 5 ปีขึ้นไป