สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (27 - 30 เมษายน 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 534,774.86 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 133,693.72 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 14% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 57% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 306,085 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 159,720 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 8,031 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A (อายุ 4.1 ปี) LB21DA (อายุ 6.6 ปี) และ LB155A (อายุ .1 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 53,037 ล้านบาท 33,382 ล้านบาท และ 20,810 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) รุ่น SCC184B (A(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 763 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT162A (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 417 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT15NA (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 409 ล้านบาท
ราคา (Price) ของพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตราสารระยะสั้น หรือผู้ซื้อจะได้ผลตอบแทน (Yield) ลดลง ประมาณ 0.19%-0.20% หากเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps มาอยู่ที่ 1.5% ซึ่งต่ำสุดในรอบสี่ปีหลังประเมินว่าเศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวต่ำกว่าคาดซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนในช่วงอายุ 1เดือน ถึง 1ปี ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ขณะที่มติการประชุมที่จัดขึ้นในวันที่ 28-29 เม.ย.58 ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สรุปให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป และยังไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดการในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (27 เม.ย. - 30 เม.ย. 58) มีเม็ดเงินต่างชาติไหลออกจากการลงทุนในตราสารหนี้รวมสุทธิ 2,776 ล้านบาท โดยเงินไหลเข้าจากตราสารหนี้ระยะยาว (อายุคงเหลือ > 1 ปี) ประมาณ 6,923 ล้านบาท ขณะที่ไหลออกจากตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุน้อยกว่า 1 ปี) ประมาณ 9,699 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (27 - 30 เม.ย. 58) (20 - 24 เม.ย. 58) (%) (1 ม.ค. - 30 เม.ย. 58) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 534,774.86 468,589.43 14.12% 6,916,313.75 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 133,693.72 93,717.89 42.66% 87,548.28 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 109.88 109.53 0.32% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 108.11 107.92 0.18% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (30 เม.ย. 58) 1.54 1.53 1.53 1.78 2.12 2.51 2.97 3.61 สัปดาห์ก่อนหน้า (24 เม.ย. 58) 1.73 1.72 1.73 1.9 2.18 2.54 3 3.63 เปลี่ยนแปลง (basis point) -19 -19 -20 -12 -6 -3 -3 -2