อย่างไรก็ดี ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามากดดันจากปัญหาความกังวลความสามารถในการชำระหนี้ของกรีซ หากการเจรจากับ Troika ยังคงยืดเยื้อและไม่มีข้อสรุป โดยกรีซจะต้องมีการจ่ายชำระดอกเบี้ยให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อีกครั้งจำนวน 763 ล้านยูโร ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ และจับตาหากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐอเมริกาที่จะประกาศในวันคืนนี้ (8 พ.ค.) ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด อาจทำให้เกิดจิตวิทยาเชิงลบ เพราะตลาดจะคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์สหรัฐอเมริกา (Fed fund) เร็วขึ้น รวมถึงการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกดดันต่อส่วนต่างผลตอบแทน (Earning yield gap) ของ SET Index ให้ลดลง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ หากขึ้นให้ขาย และลงให้ซื้อ ตามกรอบแนวรับแรกที่ 1,480-1,500 และกรอบแนวต้านที่ 1,530-1,550 จุด โดยหากดัชนีปรับตัวลงสู่แนวรับ มองเป็นจุดเริ่มทยอยสะสมหุ้นสำหรับนักลงทุนระยะกลางเพื่อรอไปขายช่วงปลายไตรมาสที่ 2/2558 ส่วนหุ้นแนะนำสำหรับเดือนพฤษภาคมนี้ ให้เปลี่ยนหุ้นลงทุน โดยออกจาก TMB, THAI, ROBINS, SGP, MONO, KKP, FOCUS เพื่อเข้าลงทุนใน ADVANC, BANPU, PS, HANA, PTT, TISCO, EVER แทน รวมกับหุ้นอีก 13 บริษัท ที่ยังคงคำแนะนำ ได้แก่ IRPC, IFEC, ITD, TCAP, BJCHI, JMT, TPCH, WHA, TRUE, SUPER, GL, CPF, TPIPL