นอกจากนี้บริษัทยังได้รับประโยชน์จากราคาเหล็ก ซึ่งเป็นวัตถุดิบมีราคาปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/57 ทำให้ราคาปัจจุบันลดลงค่อนข้างมากราว 20% จากไตรมาส 1/57 ขณะที่การดำเนินงานของบริษัทถึงจุดคุ้มทุนแล้วตั้งแต่ปีแล้ว ทำให้การผลิตต่อจากนี้จะสนับสนุนอัตราการทำกำไรของบริษัทได้
อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิต จากปัจจุบันที่แต่ละปีมีการใช้อัตรากำลังการผลิตราว 90% ซึ่งยังเพียงพอต่อความต้องการใช้ และในปีนี้คาดจะมีการผลิตระดับ 5,500 ตัน
นายธานินทร์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโต 20% จากปีก่อนมาที่ 1.2 พันล้านบาท หลังจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ(Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 180-200 ล้านบาท และคาดว่าจะมีงานใหม่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานภาครัฐและเอกชน โดยช่วงที่เหลือของปีธุรกิจยังขยายตัวได้ดีตามธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจท่อสำหรับงานระบบในอาคาร โดยไตรมาสแรกผลการดำเนินงานนับว่าเติบโตเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ และเชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือของปีบริษัทจะยังคงทำให้ขยายตัวได้อย่างดีด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีงานจากธุรกิจสื่อสารเข้ามาสนับสนุน โดยหากมีการประมูล 4G จะช่วยให้เกิดการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทนับว่าเป็นอันดับ 1 ของท่อร้อยสายไฟแบบอ่อนกั้นน้ำ และปัจจุบันยังอยู่ระหว่างดำเนินการทำโครงการผลิตท่อร้อยสายไฟใต้ดิน (RTRC) โดยก่อสร้างโรงงานขนาด 1,400 ตารางเมตร และลงทุนในเครื่องจักรผลิตท่อชนิดซินไพเบอร์กลาส สำหรับงานร้อยท่อสายไฟฟ้าใต้ดิน โดยเริ่มโครงการไปแล้วตั้งแต่ 1 ม.ค.และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ 30 พ.ค.58 โดยเบื้องต้นวางงบลงทุน 25 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีใบสั่งซื้อสินค้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการผลิตคิดเป็นกว่า 171 ล้านบาท