นอกจากนี้ บริษัทมีโอกาสลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3/58 นี้ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ ประเมินว่าน่าจะผลักดันให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัท GUNKUL เติบโตอย่างต่อเนื่องกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นจึงมั่นใจว่ารายได้รวมในปี 58 จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 50% หรือ 5,200 ล้านบาท จากปี 57 โดยบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่
ในปี 58 บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นเรื่องของธุรกิจผลิตและจัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น หลอดไฟ LED ปัจจุบันมุ่งเน้นการขายในส่วนงานโครงการและหน่วยงานราชการ แนวโน้มธุรกิจหลอดประหยัดพลังงานน่าจะเติบโตและมีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น
“พลังงานทดแทนถือเป็นพระเอกที่ทำให้ GUNKUL เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต เนื่องจากรายได้จะไม่ผันผวนเหมือนงานรับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งยังมีมาร์จิ้นที่ดีกว่า เมื่อผนึกเข้ากับธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทดำเนินการอยู่ ทำให้มั่นใจได้ว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5,200 ล้านบาท อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นรายได้ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่บริษัทดำเนินธุรกิจมา" นายสมบูรณ์ กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า รายได้ดังกล่าวในปีนี้ยังไม่นับรวมโอกาสที่บริษัทจะขยายธุรกิจไปทำแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อหนุนรายได้ในส่วนธุรกิจเทรดดิ้ง และโครงการโซล่าร์สหกรณ์และส่วนราชการ