(เพิ่มเติม) "ไทยโคโคนัท"ยื่นไฟลิ่ง มิ.ย.เทรด ส.ค.-ก.ย.ระดมทุนกว่าพันลบ.จับมือ MYJ บุกตลาดจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 12, 2015 17:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวชัญญา ธนศักดิภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยโคโคนัท เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท/หุ้น โดยหวังว่าจะระดมทุนได้มากกว่า 1 พันล้านบาท และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ในราวเดือน ส.ค.-ก.ย.58 หลังจากบริษัทแต่งตั้งให้บริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทมีแผนใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ส่วนหนึ่งแบ่งชำระหนี้ 200-300 ล้านบาท เพื่อลดภาระทางการเงิน ส่วนที่เหลือจะใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตและลงทุนตั้งโรงงานใหม่ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการมองหาทำเลตั้งโรงงานในอินโดนีเซียที่เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่มีวัตถุดิบมะพร้าวค่อนข้างมาก แต่คาดว่าโรงงานจะมีขนาดเล็กกว่าโรงงานในไทยที่มีกำลังการผลิตราว 5-7 พันตัน/วัน ใช้วัตถุดิบมะพร้าวกว่า 2 แสนลูก/วัน

ไทยโคโคนัท ดำเนินธุรกิจผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวไปยัง 52 ประเทศทุกภูมิภาคทั่วโลก มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกโดยตรงประมาณ 60% และจำหน่ายผ่านเอเยนต์ในไทยเพื่อส่งออกต่อ 30% มีตลาดหลัก คือ ทวีปอเมริกาเหนือ 50% รองลงมาเป็นยุโรป 20% เอเชีย และโอเชเนีย รวมทั้งอาฟริกาและตะวันออกกลาง ขณะที่สัดส่วนการจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 10% ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายสัดส่วนของตลาดเอชียขึ้นเป็น 10% จากปีก่อน 6-7%

นางสาวชัญญา กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือทางด้านการตลาดกับกลุ่ม Mei Yi Jia Co,ltd.(MYJ) ของจีนเชื่อว่าปีนี้บริษัทจะสามารถผลักดันยอดขายในจีนเติบโตขึ้นกว่า 3 เท่า หรือเพิ่มมาที่ 200 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 60 ล้านบาท รวมทั้งช่วยเพิ่มโอกาสของบริษัทในการขยายตลาดไปทั่วประเทศจีนในอนาคต หลังจากเริ่มวางขายสินค้าแบรนด์"ไทยโคโค่"ในร้านสะดวกซื้อของ MYJ ที่มีอยู่ 6,700 สาขาใน 18 เมืองของมณฑลกวางเจา และกำลังขยายเข้าสู่มณฑลฟูเจี้ยน

"จากการทำแบรนด์ "ไทยโคโค่"ร่วมกัน และยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก MYJ ที่มีเครือข่ายร้านสะดวกซื้อกว่า 6,500 แห่งทั่วทั้งเมืองตงกวน(Dongguan) จะสามารถเพิ่มยอดรายได้ในตลาดจีนให้กับบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เราน่าจะมียอดขายในจีนโตขึ้น 3 เท่าตัวเป็นอย่างน้อย และ MYJ จะเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าทีแข็งแกร่งของเราในอนาคตด้วย"นางสาวชัญญา กล่าว

บริษัทจะเน้นการทำตลาดแบรนด์"ไทยโคโค่"ในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนเป็นหลัก ภายใต้ความร่วมมือทางการตลาดกับ MYJ สร้างกิจกรรมการสร้างการรับรู้แบรนด์และผลิตภัณฑ์น้ำนมกะทิพร้อมดื่ม(Milk Drink) โดยตั้งงบประมาณในจีน 30-35 ล้านบาท วางเป้าหมายเป็นผลิตภัณฑ์ Premium จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกัน ณ จุดขาย พร้อมทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และความประทับใจในตราสินค้าของบริษัทฯ ในช่องทางที่ MYJ ให้การสนับสนุนอาทิเช่น ชั้นวางสินค้าในทุกสาขา สื่อเคลื่อนที่บนรถขนกระจายสินค้าของ MYJ

ล่าสุด ในปี 58 Milk Drink "ไทยโคโค่"ได้รับรางวัลนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มยอดเยี่ยม "Sial Innovation Selection 2015 China"จากนิทรรศการแสดงสินค้า Sial Food & Beverage China 2015 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค.58 ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ของจีน

Mr. Zhang Guoheng, General Manager of MYJ Convenient Store Co., LTD กล่าวว่า ไทยเป็นคู่ค้า และผู้ผลิตและส่งออกสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มแปรรูปคุณภาพที่มีมาตรฐานของจีน โดยบริษัทฯมีการนำเข้าสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มแปรรูปจากไทยปีละกว่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อกระจายสินค้าผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อที่มีอยู่กว่า 6,700 สาขา และมีแผนเพิ่มเป็น 7,000 สาขาภายในปีนี้ โดยคาดว่าปีนี้จะมียอดขายราว 8 พันล้านหยวน จากปีก่อนมากกว่า 7 พันล้านหยวน ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ยอดขายเติบโตแล้วกว่า 17%

ทั้งนี้ การคัดเลือกสินค้าประเภท น้ำนมกะทิพร้อมดื่ม หรือ Milk Drink แบรนด์ "ไทยโคโค่"มาจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อในเครือข่าย MYJ และการทำตลาดร่วมกันน่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เนื่องจากความโดดเด่น และความแตกต่างในตัวผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคจีนที่มีแนวโน้มให้ความสนใจที่จะบริโภคสินค้าเชิงสุขภาพมากขึ้น และยังเป็นการผสมผสานรสชาติจากผลไม้เมืองร้อนของไทย เช่น ทุเรียน มะม่วง ซึ่งได้รับความนิยมสูงจากผู้บริโภคชาวจีน

ดังนั้น กลุ่มธุรกิจ MYJ คาดว่าจะอาศัยระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งเพื่อหาช่องทางกระจายสินค้าแบรนด์"ไทยโคโค่"ไปยังทั่วประเทศจีนที่มีอีกหลายมณฑล และมีประชากรเป็นจำนวนมาก ซึ่ง MYJ เองก็มีแผนจะกระจายสาขาออกไปจากที่มีมณฑลกวางโจวเป็นศูนย์กลาง ซึ่งแต่ละสาขามีสินค้าวางขายกว่า 3,000 รายการ ส่วนใหญ่เป็นเฟรนไชส์ และยังมีโอกาสนำเข้าสินค้าจากไทยไปจำหน่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะที่ผลิตจากผลไม้ ซึ่งเป็นจุดเด่นของไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ