"เมื่อเรายกเลิกการลงทุนมี่ญี่ปุ่นไปแล้ว เราก็จะหันมาเน้นการลงทุนในประเทศไทยแทน ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าและให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับที่ญี่ปุ่น ตอนนี้เราก็มี MOU ของพะเยาในการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าขยะ และเร็วๆนี้เราก็จะเข้าไป Bid โรงไฟฟ้าอีกหนึ่งแห่งเพิ่มเติม"นายสมพงษ์ กล่าว
สำหรับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้ให้ยกเลิกการร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นกับพันธมิตรไพร์ม โร้ด แคปปิตอล จำกัด เนื่องจากมองว่ามีความเสี่ยงเรื่องความซับซ้อนของโครงสร้างการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศญี่ปุ่นเพื่อลดภาระทางภาษี ซึ่งจะต้องมีการตั้งบริษัทย่อยหลายบริษัท ทำให้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อน
ประกอบกับมีความเสี่ยงในการใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทมองว่ามูลค่าสูงเกินไป อีกทั้งยังไม่พร้อมด้านบุคคลากรต่อการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ และการที่บริษัทเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้การลงทุนต่างๆจะต้องมีการขอมติเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ทำให้อาจจะเกิดความไม่คล่องตัวในการดำเนินการต่างๆ
ทั้งนี้ ขั้นตอนการยกเลิกการร่วมทุนโครงการดังกล่าวนั้น บริษัทจะขายเงินลงทุน 50% ในบริษัทร่วมทุนกลับคืนไปให้พันธมิตร ซึ่งทางพันธมิตรจะมีการสรรหาผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนต่อไป โดยการหาผู้ร่วมทุนรายใหญ่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด
"เมื่อเรายกเลิกการร่วมทุนกับพันธมิตรในโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นแล้ว เพราะเราเห็นความเสี่ยงและควาซับซ้อนที่มีอยู่มาก และเราเองก็ยังไม่พร้อมมากนัก เราก็จะขายเงินลงทุนที่เราถืออยู่ 50% คืนให้กับพันธมิตร และพันธมิตรเขาก็จะไปหาคนที่สนใจมาร่วมลงทุนในโครงการนี้ใหม่ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นการตัดสินใจของพันธมิตรแล้วว่าเขาจะเลือกใครมาถือหุ้น"นายสมพงษ์ กล่าว