สำหรับปี 58 บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าการเติบโตของกำไรสุทธิประมาณ 15-20% จากปี 57 โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ(Backlog)จำนวน 900 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังได้เซ็นสัญญารับงานวางฐานรากเสาเข็มแบบเจาะคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2-3 เดือนและสามารถรับรู้รายได้ภายในปีนี้ทันที อีกทั้งยังได้ยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมมูลค่ารวมประมาณ 800 ล้านบาท
นายบดินทร์ มองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมงานก่อสร้างและงานฐานรากเสาเข็มเจาะในปีนี้ งคงมีแนวโน้มเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องจากการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ของภาครัฐบาลที่ประกาศไว้ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในช่วงกลางปีนี้ ประกอบกับงานโครงการรถไฟฟ้าอีก 3 สาย ซึ่งอยู่ระหว่างดูความชัดเจนเรื่องแหล่งเงินทุน และคาดว่าจะพร้อมเปิดประมูลก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี, โครงการ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรี
นอกจากนี้ การลงทุนในโครงการต่างๆ ของภาคเอกชนที่เข้ามาสนับสนุนภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานฐานรากให้คึกคักนั้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ PYLON เติบโตขึ้นในปี 58 และโดยเฉพาะในปี 59 ที่คาดว่าจะเป็นปีที่อุตสาหกรรมน่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ในส่วนของแผนการรุกตลาดไปยังต่างประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาโอกาสที่จะเข้าไปดำเนินการรับงานวางฐานรากที่ประเทศพม่าเนื่องจากมองว่าภาวะอุตสาหกรรมการก่อสร้างในพม่าเริ่มมีความต้องการที่สูงขึ้น
ด้านผลประกอบการไตรมาส 1/58 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 60.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 43.17 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 40.86% ทั้งนี้กำไรสุทธิดังกล่าวถือว่าเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากบริษัทฯ มีการบริหารงานและใช้เครื่องจักรอย่างเต็มกำลังและมีประสิทธิภาพทำให้มีกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้น