นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) กล่าวว่า ในปีนี้ SAMTEL จะเป็นพระเอกที่จะสร้างรายได้เข้ามามาก เพราะในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลจะมีงบลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยในไตรมาส 2/58 มีงานรอเซ็นสัญญาจำนวน 6 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการของบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น
แม้ว่าในไตรมาส 1/58 นี้ผลประกอบการของกลุ่มสามารถจะปรับตัวลงที่เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่คาดว่า ผลประกอบการของกลุ่มสามารถ ในไตรมาส 2/58 น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/58 ดังนั้น กลุ่มสามารถจึงยังไม่ทบทวนเป้าหมายที่ได้วางไว้ปีนี้มีรายได้ 3 หมื่นล้านบาท
ส่วนบมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) ที่ยอดขายเครื่องมือถือในไตรมาส 1/58 ได้เพียง 9 แสนเครื่อง ราคาเครื่องเฉลี่ย 2,500 บาท ลดลงจากไตรมาส 4/57 ประมาณ 100 บาท/เครื่อง ทั้งปีได้วางเป้าหมายยอดขายไว้จำนวน 4 ล้านเครื่อง และ ขายในต่างประเทศ 1 ล้านเครื่อง โดยขอรอดูผลงานในไตรมาส 2 ก่อนที่จะปรับเป้าหมายของ SIM
โดยในไตรมาส 2 นี้ ได้ร่วมกับโอเปอเรเตอร์ 3 รายเข้ามาทำโปรโมชั่นขายเครื่องมือถือ และหาช่องทางขายผ่านออนไลน์มากขึ้น ส่วนช่องทางขายในตลาดต่างประเทศ ไปที่พม่าที่มียอดขายตอบรับดี และ ประเทศในแถบตะวันออกกลาง ขณะทีธุรกิจ 4G กลุ่มสามารถจะไม่เข้าร่วมประมูล แต่จะมาร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นได้ ร่วมทำคอนเท้นท์
"โดยรวมไตรมาส 1/58 drop ไปบ้าง แต่ก็น่าจะ recover ได้ในไตรมาส 2 ไตรมาส 3 สังเกตุเศรษฐกิจไม่ดี รัฐต้องใช้เงินกระตุ้น SAMTEL ก็จะเป็นพระเอก" นายวัฒน์ชัย กล่าว
นอกจากนี้ SAMART จะออกหุ้นกู้มูลค่า 2.5- 3 พันล้านบาท อายุ 3 ปี ดอกเบี้ยประมาณ 4.3-4.5% อายุ 5 ปี ดอกเบี้ยประมาณ 4.7-4.9% เตรียมเสนอขายให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ในระหว่างวันที่ 25-27 พ.ค.นี้ โดยมีธ.กรุงเทพ และ บล.เคทีบี เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย