"หลังจากที่เราได้เปิดแผนธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้าว่าจะขยายไลน์ธุรกิจสู่กลุ่มเกษตรกรรมมากขึ้น จากเดิมที่มุ่งเน้นออกแบบและผลิตเครื่องจักรสำหรับใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เท่านั้น วันนี้เราก็ได้เดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ โดยได้จัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาเพื่อดำเนินธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรโดยเฉพาะ ซึ่งเราเห็นว่ากลุ่มเกษตรกรรมเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ขณะที่ UREKA มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเครื่องจักร จึงมั่นใจว่าจะสามารถขยายไลน์เข้าสู่กลุ่มตลาดดังกล่าวได้ไม่ยากนัก โดยปัจจุบันได้มีการเจรจากับลูกค้ากลุ่มเกษตรในหลายพื้นที่ ซึ่งหากการเจรจามีความชัดเจนและคืบหน้าอย่างไรก็จะชี้แจ้งให้ทราบต่อไป" นายนรากร กล่าว
นายนรากร กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ไว้ที่ 770 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 100% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 310.19 ล้านบาท โดยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้จะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมขยายไลน์สู่กลุ่มการเกษตรเพิ่มขึ้น ส่วนความคืบหน้าสาขาที่เวียดนาม ขณะนี้อยู่ระหว่างจดจัดตั้งบริษัท โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งก็จะช่วยเพิ่มฐานรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปีนี้จะเพิ่มเป็น 25% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 10%
ส่วนผลการดำเนินการในไตรมาส 1/58 ที่ผ่านมา มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 16.19 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ทั้งนี้มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเปิดดำเนินการบริษัทใหม่ที่ต่างประเทศได้แก่ อินโดนีเซีย อินเดียและ บริษัทใหม่ในไทยได้แก่ บริษัท ยูเรกาออโตเมชั่น จำกัด และ บริษัท ยูเรกา เทรดดิ้ง จำกัด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทิศทางธุรกิจหลังจากนี้น่าจะดีขึ้นจากแผนการดำเนินธุรกิจที่ กระจายฐานรายได้สู่ต่างประเทศ และขยายไลน์สู่กลุ่มเครื่องจักรการเกษตรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของผลประกอบการให้มีเสถียรภาพและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น