นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558 - 2579 หรือแผน PDP 2015 ซึ่งเป็นแผนจัดหาไฟฟ้าในระยะยาว โดยปรับลดค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลงเหลือร้อยละ 3.94 จากเดิมขยายตัวร้อยละ 4.41 รวมทั้งให้สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์พลังงาน และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ซึ่งการจัดทำแผน PDP 2015 นี้ ได้พิจารณาจากหลักเกณฑ์สำคัญ 3 ด้านหลัก คือ 1) ด้านความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ (Security) โดยคำนึงถึงการกระจายแหล่งและชนิดเชื้อเพลิง เพื่อลดสัดส่วนการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่ปัจจุบันสูงถึงร้อยละ 65 ให้เหลือไม่เกินร้อยละ 40 ในปี 2579 โดยเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียน ถ่านหินสะอาด และการรับซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน ในขณะที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ของปริมาณความต้องการไฟฟ้าสูงสุด 2) ด้านสิ่งแวดล้อม (Ecology) โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาภาวะโลกร้อนลงกว่าร้อยละ 37 ในปี 2579 เมื่อเทียบกับปี 2556 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการอนุรักษ์พลังงานอย่างเต็มศักยภาพ ผ่านมาตรการต่างๆ ไปสู่ 4 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ อุตสาหกรรม อาคารธุรกิจ ที่อยู่อาศัย และภาครัฐ ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลงถึง 89,672 ล้านหน่วย (GWh) ในปี 2579 และ 3) ด้านเศรษฐกิจ (Economy) โดยกำหนดให้ราคาค่าไฟฟ้ามีความเหมาะสม โดยให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและบริหารระบบผลิต ระบบส่ง และระบบจำหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนน้อยที่สุด ทั้งนี้ คาดว่าราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุของแผน PDP ฉบับนี้อยู่ที่ 4.587 บาท/หน่วย
อีกทั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับแผน PDP 2015 ฉบับใหม่ ที่ประชุมฯ จึงมีมติเห็นชอบแผนระบบรับส่งและโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติ โครงการลงทุนในระยะที่ 1 ของโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซฯ โดยมอบหมายให้ บมจ.ปตท.เป็นผู้ดำเนินการ จำนวน 3 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 13,900 ล้านบาท และรับทราบในหลักการสำหรับการลงทุนในระยะที่ 2 และ3 ของโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซฯ (ส่วนที่1) และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการจัดหา/นำเข้าก๊าซ LNG (ส่วนที่ 2) ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ บมจ.ปตท. ไปศึกษารายละเอียดเสนอต่อ กบง. เพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อนนำเสนอต่อ กพช.ต่อไป
พร้อมกันนี้ ได้เห็นชอบกรอบแนวทางการดำเนินการบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สัมปทานจะสิ้นสุดอายุ โดยให้คำนึงถึงการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินการพัฒนาแหล่งก๊าซเพื่อรักษาระดับการผลิตก๊าซธรรมชาติไม่ให้ลดต่ำลง ระบบการบริหารจัดการฯ จัดเก็บผลประโยชน์เข้ารัฐ ให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และเพิ่มสัดส่วนของรัฐในการถือครองแหล่งก๊าซ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรม พร้อมรับทราบการเตรียมการของกระทรวงพลังงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาในประเด็นต่างๆ เช่น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ว่าจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาเพื่อทำการประเมินปริมาณสำรอง และปริมาณทรัพยากรของกลุ่มแหล่งก๊าซเอราวัณและแหล่งก๊าซบงกช เป็นต้น และมอบหมายให้กระทรวงพลังงานและคณะกรรมการปิโตรเลียมรับไปพิจารณาดำเนินการในรายละเอียดให้ได้ข้อยุติ ภายใน 1 ปี
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้เลื่อนกำหนดวันออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ FiT (Feed-in Tariff) ภายใต้กลไกการแข่งขันด้านราคา จากเดิมภายในไตรมาสแรกของปี 2558 เป็นภายในเดือนกรกฎาคม 2558 โดยไม่รวมพลังงานน้ำและขยะในการประกาศรอบนี้ และสำหรับพลังงานน้ำและขยะจะไม่ดำเนินการด้วยกลไกการแข่งขันด้านราคา เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านพื้นที่และควรดำเนินการส่งเสริมเป็นการเฉพาะตามนโยบายรัฐบาล
และยังเห็นชอบขยายระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นของบมจ. สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ให้แก่ประชาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกไปเป็นภายในปี 2558 โดยมอบหมายให้กระทรวงพลังงานเจรจากับ SPRC เพื่อกำหนดระยะเวลาเข้าจดทะเบียนและจำหน่ายหุ้นที่เหมาะสม และดำเนินการแก้ไขสัญญาฯ ต่อไป