ปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งงานของกฟภ.คาดว่าจะได้รับใบสั่งซื้อภายในไตรมาส 2 /58 และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้บางส่วนในไตรมาส 2/58 และไตรมาส 3/58 นอกจากนี้บริษัทมีแผนการเข้าประมูลงานในหน่วยงานราชการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเข้าประมูลงานกฟน. ซึ่งจะเปิดยื่นซองประมูลในช่วงไตรมาส 2/58 มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท และคาดว่าจะประมูลชนะประมาณ 10-15 % ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้
ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างรอผลงานประมูลของกฟภ.ที่ได้ยื่นตั้งแต่ต้นปี 58 ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะประกาศผลการประมูลได้ในเดือนพ.ค.นี้ด้วย
นายพูลพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในไตรมาส 2/58 บริษัทมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยขยายกลุ่มลูกค้าหม้อแปลงไฟฟ้าชนิด Dry-Type Cast Resin ซึ่งเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าที่ติดตั้งภายในอาคารที่มีพื้นที่จำกัด และปัจจุบันบริษัทได้รับใบคำสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าชนิด Dry-Type Cast Resin เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทจึงมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศแถบ อาเซียน เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทด้วย
"การรุกตลาดอาเซียนเพิ่มมากขึ้นเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ด้านการขยายตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าทั้งการส่งออก และลูกค้าเอกชน ที่นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่นที่บริษัทได้ทำการตลาดล่วงหน้าไปก่อนหน้านี้ เพื่อรองรับความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้า"นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
นายพูลพิพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายจะไปแตะระดับ 1,000 ล้านบาทในปีนี้ เติบโราว 30% จากปีก่อนตามแผนงานการขยายตลาดแบบเชิงรุก ขณะที่แนวโน้มการใช้พลังงานในอาเซียนยังเพิ่มมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนภาครัฐก็ได้ออกมาผลักดันเรื่องพลังงานทดแทน ทำให้คาดว่าธุรกิจพลังงานจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา