EA คาด Q2/58 กำไรโตรับรู้โรงไฟฟ้าเต็ม 3 แห่ง ทั้งปีรายได้โตไม่ต่ำกว่า 30%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 18, 2015 12:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์(EA) เปิดเผยภาพรวมธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลและกลีเซอรีน รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของบริษัทว่า ในไตรมาส 2/58 มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกรมธุรกิจพลังงานได้ออกประกาศ เรื่องกำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 ลงวันที่ 3 เมษายน 2558 ให้ปรับ เพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันใน น้ำมันดีเซลหมุนเร็วกลับมาเป็นร้อยละ 7 โดยผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนนี้แล้ว จึงส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณการจำหน่ายในไตรมาส 1

ประกอบกับปัจจุบันนี้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 แห่ง รวม 188 เมกะวัตต์ ซึ่งนอกจากกำลังการผลิตที่สูงขึ้นจากในช่วงที่ผ่านมาแล้ว บริษัทยังมีจุดเด่นจากเทคโนโลยีการติดตั้งโรงไฟฟ้าขนาด 90 เมกะวัตต์ จ.ลำปาง ที่มีความทันสมัยที่สุด ด้วยระบบปรับทิศทางการรับแสงอาทิตย์ได้ทำให้รายได้มีโอกาสเพิ่ม ขึ้นจากปีก่อนมาก และภาพการเติบโตของรายได้และกำไรจะแสดงให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นใน ไตรมาส 2/58 นี้เป็นต้นไป เพราะจะเป็นการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นแบบเต็มไตรมาสจากโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง

ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไบโอดีเซล 70% และจากธุรกิจพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 30% แต่มีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าถึง 90% และสัดส่วนจากธุรกิจไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นตามความสำเร็จของโครงการที่บริษัทฯ ทยอยก่อสร้างและรับรู้รายได้ในแต่ละปี จึงมุ่งขยายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่ม ล่าสุดอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า ขนาด 90 เมกะวัตต์ ที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีระบบปรับทิศทางการรับแสงอาทิตย์เช่นกัน และลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดรวม 126 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยที่จ.นครศรี ธรรมราช 2 โครงการ และจ.สงขลา อีก 1 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นในปีนี้ประมาณ 18,000 ล้านบาท สนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ซึ่งในเบื้องต้นตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้จะโตไม่น้อยกว่า 30%

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาส 1/88 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558) มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,013 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,090 ล้านบาท หรือลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 580 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 460 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์

ด้านธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าประสบผลสำเร็จด้วยดี โดยมีรายได้ในไตรมาสแรกอยู่ที่ 771 ล้านบาท สูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 43 เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 58 ได้มีการเปิดดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าขนาด 90 เมกะวัตต์ จ.ลำปาง รายได้จึงเพิ่มขึ้น

สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลและกลีเซอรีนนั้นมีรายได้อยู่ที่ 1,231 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 240 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากปัจจัยด้านปริมาณการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลที่ในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 35.22 ล้านลิตร ในขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 41.51 ล้านลิตร และมีปริมาณการจำหน่ายกลีเซอรีนบริสุทธิ์ในไตรมาสนี้ได้ 3.75 ล้านกิโลกรัม รายได้จากธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบจากการที่กรมธุรกิจพลังงานได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล (ฉบับ ที่ 4) พ.ศ.2558 ให้ปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 3.5 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 58 ส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลของบริษัทฯ ลดลง อย่างไรก็ตาม จากนโยบายของกรมพลังงานฉบับใหม่ ส่งผลให้ในช่วงต่อจากนี้ ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันดีเซลจะมีทิศทางที่ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ