สำหรับในปี 58 บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 3 พันล้านบาท และจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 280 ล้านบาท โดยการเติบโตในปีนี้จะมาจากกลุ่มธุรกิจเทเลคอมที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากได้รับงานการวางระบบสายไฟเบอร์ให้กับกลุ่มทรูเพิ่มเข้ามา ขณะที่งานด้านดาต้าเซ็นเตอร์ยังอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้าจากภาครัฐอีก 1 ราย โดยคาดสรุปภายในเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งหากเจรจาสำเร็จจะทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ เพิ่มเป็น 95% จากปัจจุบันที่ 80% จากปัจจุบันที่มีลูกค้า คือธนาคารออมสินและธนาคารทหารไทย ซึ่งการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ให้กับธนาคารทหารไทยจะเริ่มรับรู้รายได้ในเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานใหม่ในการติดตั้งสายไฟฟ้าแรงสูง มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทเป็น 1 ในผู้เข้าร่วมประมูล 3 ราย ซึ่งจะประกาศผลในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนโครงการ Submarine cable ที่เกาะเต่าและเกาสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานีของภาครัฐ มูลค่ารวมกว่า 2.7 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มประมูลได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทคาดหวังจะได้รับงานดังกล่าว 50% ของมูลค่าโครงการรวม
ส่วนการย้ายเข้าจดทะเบียนใน SET คาดว่าจะริ่มได้ในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ หลังจากได้มีการหารือกับทางตลาดหลักทรัพย์ในเบื้องต้นแล้ว โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเร็วๆนี้ ขณะเดียวกันภายใน 1-2 เดือนนี้ หรือปลายเดือนพ.ค.-มิ.ย. บริษัทเตรียมยื่นไฟลิ่งเพื่อนำบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai คาดว่าจะซื้อขายได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้