ขณะนี้ บริษัทได้เซ็นสัญญารับงานโฆษณาล่วงหน้า พร้อมรับรู้รายได้เพิ่มภายในปีนี้แล้วประมาณ 1,300 ล้านบาท และ เชื่อมั่นว่าจะเพิ่มความสามารถ ในการทำกำไรได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/58 มีอัตรากำไรสุทธิปกติเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 11.6% ในไตรมาส 1/57 เป็น 15.6% และมีอัตรากำไรสุทธิ(หลังหักรายการพิเศษ) เพิ่มเป็น 13.1 % เนื่องจากบริษัทลดภาระดอกเบี้ยจากการนำเงินจากการระดมทุนไปชำระเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน และทำให้ปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญคือเหลือเพียง 0.1 เท่าจากเดิม 2.1 เท่า
นอกจากนี้บริษัทวางแผนที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายสื่อโฆษณาใหม่เพิ่มเติม ทั้งในหัวเมืองใหญ่ๆ ที่สำคัญของไทย และ ประเทศแถบอาเซียน โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่ มีประชากรกว่า 250 ล้านคน และ บริษัทมีพันธมิตรธุรกิจที่สำคัญเป็นสถานี โทรทัศน์ใหญ่สุดอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการลงทุน
ด้านนายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ PLANB กล่าวว่า ในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 416 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 54.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากไตรมาส1/58 นับเป็นผลประกอบการที่เติบโตสูงกว่าวงการสื่อ ฆษณานอกบ้านที่เติบโตประมาณ 3% โดยบริษัทมีโครงสร้างรายได้ที่มีความ มั่นคงและมีเสถียรภาพสูง ไม่พึ่งพิงสัญญา หรือสัมปทานใดมากเกินไป
สำหรับไตรมาส 1/58 รายได้ของบริษัท มาจากสื่อนอกบ้าน 4 ประเภทคือ สื่อโฆษณาดิจิตอล (จอ LED) 44% เติบโตสูงถึง 92%, สื่อโฆษณาใน ระบบขนส่งมวลชน (Transit) 28.5% เติบโต 12.6% ,สื่อโฆษณาภาพนิ่ง (Static Billboard) 25% เติบโต 5.6% และสื่อโฆษณาในห้างสรรพสินค้าทั้งภายในและภายนอกตัวอาคาร 2.25% เติบโต 24.6% โดยในเดือนมี.ค.นี้ อุตสาหกรรมโฆษณาเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และมีเม็ดเงินเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่า 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ล่าสุดการที่ PLANB ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Hello Bangkok และสามารถเพิ่มสื่อจอ LED กว่า 80 จอ และ ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ทั่วประเทศในทำเลที่ดีที่สุดกว่า 120 ป้าย ในเครือข่ายสื่อของ PLANB ทำให้เพิ่มโอกาสการหารายได้เพิ่มเติมจากส่วนนี้ถึงประมาณ 500 ล้านบาทในปีนี้ นอกจากนี้ PLANB ได้ลงทุนพัฒนาสื่อใหม่กว่า 10 โครงการที่ติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ อาทิ PLAN B TV, Digital@MRT, สื่อจอดิจิตอลที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน เอ็มควอเทียร์ เอ็มโพเรียม และ เซ็นทรัลพลาซา สาขาต่างๆทั่ว ประเทศ รวมทั้งสื่อป้ายโฆษณาในจังหวัดใหญ่ อาทิ เชียงใหม่กว่า 260 ป้าย อุดรธานี สุราษฎรธานี
ตลอดจนสื่อโฆษณาบนระบบตู้เติมเงิน และสื่อโทรศัพท์มือถือประเภทดิจิตอล (POS Media) รวมแล้ว สามารถเพิ่มรายได้ถึงประมาณปีละ 900 ล้านบาท