ขณะที่ตามแผนการดำเนินงานในปีนี้ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 9 โครงการ ซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม มูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการพัฒนาบนที่ดินเดิมที่บริษัทมีอยู่ และบนที่ดินใหม่ที่โดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งและรูปแบบที่แตกต่างจากตลาด รวมแล้วประมาณ 1,600 ยูนิต โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ที่ 2,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมแผนที่จะขยายการพัฒนาโครงการไปยังหัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญๆ ในต่างจังหวัด ซึ่งมองไว้ในภาคตะวันออกเป็นหลัก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนารายละเอียดของโครงการ
นอกจากนี้บริษัทยังกลับมารับจ้างบริหารโครงการให้กับรายอื่นด้วย จากทีมงานที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการมากกว่า 20 ปี หลังจากที่บริษัทได้ทำการเพิ่มทุนแล้ว ยังสำรองเงินจำนวนหนึ่ง ไว้ลงทุนในโครงการที่ติดปัญหาเรื่องการเงิน แต่ยังมีศักยภาพสูงในด้านการตลาดมาดำเนินการจัดการ โดยบริษัทจะดำเนินการจัดการเรื่องการเงินกับบริษัทนั้นๆ และยังเพิ่มทุนในโครงการดังกล่าวเพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อไป และดำเนินการแก้ไขสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาดและทำการ Rebrand ให้กับสินค้าขายออกสู่ตลาด ซึ่งบริษัทจะได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินลงทุน , ค่าบริหารโครงการ, ค่า Loyalty Fee, ค่าการตลาดและการขาย
ปัจจุบันโครงการเดิมที่ยังดำเนินการขายอยู่ ณ ปัจจุบันเป็นโครงการบ้าน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการ 15 GATES, โครงการ กฤษดา ลากูน ปิ่นเกล้า-พระราม 5, โครงการกฤษดา เพรสทีจ ปิ่นเกล้า-พุทธมณฆล สาย 3, โครงการกฤษดา แกรนด์ พาร์ค ติดถนนใหญ่ พหลโยธิน-รังสิต และ โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ คือ โครงการ Garden อโศก -พระราม9 , โครงการ The Kris รัชดา17 และ เอสเตท รัตนาธิเบศร์ นอกจากความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งของโครงการแล้ว บริษัทได้เพิ่มการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนที่ดีในอนาคตตามวิสัยทัศน์ของบริษัท
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/58 มีกำไรรวม 37.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 378% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดรับรู้รายได้ขายอสังหาริมทรัพย์ 424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน