ปีนี้บริษัทฯจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ หลังจากไตรมาส 1/58 สามารถทำกำไรได้แล้ว จากอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้นหรืออยู่ที่ 77% และยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ 35% จากปีก่อนอยู่ที่ 4.35 พันล้านบาท
ส่วนอัตราการเข้าพัก (OCC) ทั้งปีน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 77% ประกอบกับอัตรารายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (Rev PAR) ก็จะเพิ่มเป็น 14% โดยปีนี้จะมีการปรับเพิ่มราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) เพิ่มขึ้น 3%
"เรายังมั่นใจจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ และรายได้น่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะเห็นไดจากอัตราการเข้าพักไตรมาส 1/58 เพิ่มขึ้น และทั้งปีก็น่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 77% ได้ จากปีก่อนอยู่ที่ 65%"นางกมลวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงวางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 1.8 พันล้านบาท จะใช้ในการขยายโรงแรมแบรนด์ HOP INN ในประเทศจำนวน 4 แห่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4/58 และที่เหลือจะใช้ในการปรับปรุงโรงแรมเดิมที่มีอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งปีบริษัทจะมีโรงแรมทั้งสิ้น 32 แห่ง จากเดิมมีอยู่ 28 แห่ง
ส่วนโรงแรมในต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงแรมที่ประเทศฟิลิปปินส์ มีการใช้เงินลงทุนราว 200 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 59 โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีโรงแรมในต่างประเทศ 5-6 แห่ง ภายในปี 60
นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 2-3/58 ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.5-1.8 พันล้านบาท ซึ่งจะสามารถเสนอขายได้ในช่วงปลายปีนี้