โดยทั้ง 5 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นการจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2558 ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2558 และประกาศจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 มิถุนายน 2558 ส่วนกองทุน CPTGF จ่ายเงินลดทุนในวันที่ 16 มิถุนายน 2558
ทั้งนี้ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนรวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนTTLPF จ่ายเงินปันผล จำนวนกว่า 74 ล้านบาท กองทุน CPTGF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 195 ล้านบาท กองทุน TRIF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 208 ล้านบาท กองทุน TCIF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 391 ล้านบาท และกองทุน THIF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 330 ล้านบาท
กองทุน TTLPF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โครงการตลาดไทลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารบางส่วน เป็นเวลา 20 ปี ในโครงการ ประกอบด้วยอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 21 อาคาร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 170,033.54 ตารางเมตร พร้อมทั้งสาธารณูปโภค งานระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งนี้ กองทุนมีจำนวนผู้เช่าหลายรายทั้งโครงการ และมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,782 ล้านบาท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล 4 ครั้งต่อปี
กองทุน CPTGF ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารประเภทสำนักงานและศูนย์การค้า เป็นระยะเวลา 30 ปี ใน 3 ทำเล โดยมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด 131,915 ตารางเมตร ได้แก่ อาคารซี.พี.ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคารซี.พี.ทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูน ทาวน์) และอาคารซี.พี. ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) โดยมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด 131,915 ตารางเมตร กองทุนมีมูลค่าโครงการประมาณ 9,815.05 ล้านบาท ผู้เช่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง มีความหลากหลายในประเภทของธุรกิจ ทั้งบริษัทเอกชนและหน่วยงานรัฐบาลและกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิ โดยจ่ายปันผลทุกๆไตรมาส
กองทุน TRIF มีนโยบายลงทุน (freehold) ในศูนย์การค้าจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ โครงการศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เชียงใหม่ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า บางกะปิ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ โครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการตะวันนา และโครงการโอ.พี.เพลส โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ1 ครั้ง
กองทุน TCIF มีนโยบายลงทุน (Freehold) ในอาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ อาคารเอ็มไพร์ อาคารไซเบอร์ เวิร์ลด และอาคาร 208 และสิทธิการเช่าในที่ดิน สำหรับอาคารแอทธินี โดยมีมูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 25,000 ล้านบาท และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละ2 ครั้ง
กองทุน THIF ลงทุนในโรงแรม จำนวน 12 แห่ง ตั้งอยู่ทั้งในในกรุงเทพและต่างจังหวัด ประกอบด้วย 1)โรงแรม อิมพีเรียล สมุย บีช รีสอร์ท 2)โรงแรม อิมพีเรียล โบ๊ท เฮ้าส์ บีช รีสอร์ท 3)โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค 4)โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต 5)โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ ถ.สุรวงศ์ เขตบางรัก 6)โรงแรม บันยันทรี สมุย 7)โรงแรมวนาเบลล์ เอ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น รีสอร์ท เกาะสมุย 8) โรงแรม ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ 9)โรงแรมดับเบิ้ลทรี ฮิลตัน กรุงเทพ 10)โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ 11)โรงแรม โอกูระ เพรสทีส กรุงเทพ และ 12)โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ
กองทุนนี้เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ดี มีศักยภาพในการเจริญเติบโตของรายได้ในอนาคต ด้วยทำเลที่ตั้งทั้งอยู่ใจกลางเมืองและเขตธุรกิจในกรุงเทพ และรวมถึงต่างจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยโดยกองทุนนี้มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ