“ในไตรมาสแรกปี 2558 ภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศที่ชะลอตัวและราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของ บจ. ในกลุ่มพลังงานและกลุ่มผู้ส่งออกของไทย ทำให้ บจ. ใน SET มียอดขายลดลงจากงวดเดียวกันในปีก่อน อย่างไรก็ดี บจ. ปรับตัวด้านการบริหารต้นทุนได้ดีจึงมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน สำหรับหมวดธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง มีการเติบโตดีทั้งด้านยอดขาย กำไรสุทธิ และประสิทธิภาพการทำกำไรขั้นต้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน 5 อันดับแรก ได้แก่ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ หมวดธนาคารพาณิชย์ หมวดพาณิชย์ หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ และหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีกำไรสุทธิรวม 38.58% ของกำไรสุทธิรวมทั้งหมด" นายสันติ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อเทียบผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2558 กับไตรมาส 4/2557 บจ. มียอดขายลดลง 11.23% แต่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 232.15% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับมูลค่าด้านสินค้าคงคลังของหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ สำหรับฐานะทางการเงินของ บจ. ยังคงมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.29 เท่า