กองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงและความผันผวนจากการลงทุนได้ในระดับสูง และมีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุนได้ด้วยตนเอง โดยมีค่าธรรมเนียมการซื้อและการขายคืนหน่วยลงทุนที่ค่อนข้างต่ำ และกองทุนไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล ซึ่งผลที่ได้รับจากหุ้นที่ลงทุนจะสะท้อนอยู่ในมูลค่าหน่วยลงทุน โดยผู้ลงทุนสามารถจับจังหวะทำกำไรในระยะสั้นได้ตามการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร รวมถึงการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวจากการขยายตัวของธุรกิจในกลุ่ม ICT อาทิ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ดาวเทียม อินเตอร์เนตและคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร
ปัจจุบันหุ้นในดัชนีธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสารมีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับ 3 ในดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยมูลค่าตลาดรวม 1.6 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12% รองจากหุ้นในกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2558) โดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารนับว่ามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากภาครัฐมีการผลักดันประเทศเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) โดยมีนโยบายที่จะนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตโดยรวมของประเทศทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์และตัวเงิน ซึ่งจะทำให้ความต้องการและปริมาณการใช้งานของธุรกิจเทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น และจะส่งผลบวกต่อการเติบโตของผลกำไรของบริษัทในกลุ่มนี้
สำหรับผลดำเนินงานย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี ของดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (SET ICT) ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 27.52% ต่อปี สามารถเอาชนะดัชนีหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ซึ่งให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 14.87% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2558) และคาดว่าหุ้นในกลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น โดยจะได้รับประโยชน์มาจากการเปิดประมูลและพัฒนาระบบเครือข่าย 4G รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการใช้งานอินเตอร์เนตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้งานอินเตอร์เนตผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ทั้งนี้หน่วยงาน International Data Corporation (IDC) ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลชื่อดังระดับสากล ได้ประเมินอัตราการเข้าถึงโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในไทย ว่ามีการเพิ่มขึ้นจากระดับ 30% ในปี 2556 มาสู่ระดับ 50% ได้ในปี 2558 นี้
นอกจากนี้ จุดเด่นของหุ้นในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างต่ำ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าและบริการที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ดังนั้นในภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวน อาจส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นกลุ่มนี้ค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นในกลุ่มที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสูงเป็นลำดับต้นๆ ของตลาด โดยมีอัตราการจ่ายปันผลประมาณ 4.5% เทียบกับค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ 2.9% (ข้อมูลจาก Bloomberg ณ 30 เมษายน 2558)