อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับตัวลดลงนั้นยังไม่สามารถที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคให้กลับมามาได้ เนื่องจากการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ของผู้บริโภคนั้นอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยรองจากความเชื่อมั่น เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่คงที่และมีปรับขึ้นในทุกๆปี ส่วนนโยบายของภาครัฐในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศยังไม่เห็นผลที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน และอาจจะต้องรอเวลาในการที่เม็ดเงินจะไหลเข้าสู่ภาคครัวเรือน ซึ่งในช่วงแรกการลงทุนขนาดใหญ่ในระดับมหภาคจะได้รับประโยชน์ก่อน
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/58 ยอดขายพรีเซลล์ของบริษัททำได้แล้วทมี่ 2.67 พันล้านบาท เติบโต 13% จากไตรมาส 1/57 ที่มียอดขายพรีเซลล์อยู่ที่ 2.36 พันล้านบาท
นอกจากนี้ สาเหตุที่บริษัทได้มีการปรับเป้ายอดขายพรีเซลล์ในปีนี้ลดลง ส่วนหนึ่งยังมาจากการที่บริษัทมีการปรับลดการเปิดโครงการใหม่เหลือ 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.6 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่จำนวน 24 โครงการ มูลค่ารวม 2.95 หมื่นล้านบาท
โดยบริษัทได้มีการเลื่อนการเปิดโครงการบ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่ มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท ออกไป เนื่องจากกระแสข่าวเกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินเขาใหญ่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของลุกค้า ทำให้บรรยากาศของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เขาใหญ่ซบเซาลงไป บริษัทจึงขอรอระยะเวลาต่างๆให้มีความชัดเจนมากขึ้น จึงจะกลับมาเปิดขายโครงการบ้านพักตากอากาศที่เข้าใหญ่อีกครั้ง
ส่วนอีก 1 โครงการที่เลื่อนออกไปเป็นโครงการบ้านเดี่ยวมาสเตอร์พีช แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากการเตรียมที่ดินของโครงการดังกล่าวยังไม่มีความพร้อมมากนัก จึงต้องมีการเลื่อนเปิดโครงการออกไป
ทั้งนี้ โครงการใหม่ 22 โครงการ มูลค่า 2.6 พันล้านบาท ประกอบก้วย โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 19 โครงการ มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 3.05 พันล้านบาท