นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน (AMATA) คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะมีสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 2,224 ล้านบาท แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/58 จะมีกำไรสุทธิเพียง 133.10 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 69.2% แต่บริษัทฯจะมีการบุ๊คกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจากการเสนอขายหน่วยทรัสท์อมตะซัมมิทโกรทรีท และการนำ บมจ.อมตะวีเอ็น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ขณะที่ รายได้ปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 7.8 พันล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้จะมีการขายที่ดินราว 1 พันไร่ โดยจะเห็นรายได้ที่เข้ามาอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งโดยปกติแล้วในช่วงครึ่งปีหลังจะมียอดขายมากกว่าครึ่งปีแรก
"ปีนี้รายได้คงทรงตัวจากปีก่อน เพราะสถานการณ์แบบนี้ยอดขายไม่ดีเท่าไหร่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกโดยปกติยอดขายครึ่งปีแรกจะไม่มากเท่าไหร่ แต่ครึ่งหลังจะมียอดขายมากอยู่แล้ว แต่ในปี 57 ที่ผ่านมามียอดขายที่เลื่อนมาตั้งแต่ปี 56 ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 1/57 ค่อนข้างมาก แต่ในไตรมาส 1/58 ไม่มีแล้วทำให้กำไรสุทธิลดลงไปถึง 69.2% อย่างไรก็ตามเรายังมั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อน จากการบุ๊คผลกำไรในการเสนอขายกอง REIT และการนำบริษัทฯลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ช่วงปลายปี" นายวิบูลย์ กล่าว
นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาเข้าลงทุนทำนิคมอุตสาหกรรมในเมียนมาร์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาหาที่ตั้งที่เหมาะสม โดยบริษัทฯมองความเป็นไปได้คือ ทวาย ที่อยู่ติดกับเขตเศรษฐกิจพิเศษที่อยู่ระหว่างพัฒนาด้านการขนส่ง ซึ่งเมียนมาร์ ถือว่ามีศักยภาพไม่ต่างจากเวียดนามที่บริษัทฯได้เข้าไปลงทุนก่อนหน้านี้