พร้อมมองหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ เป็นหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/58)โครงการพื้นฐานของภาครัฐฯน่าจะช่วยหนุนได้, หุ้นในกลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า, หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว และหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างหุ้นสายการบิน, AOT, โรงพยาบาล, อาหาร เป็นต้น ก็ผลดีจากสัญญาณการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มเช่าซื้อ รวมถึงนาโนไฟแนนซ์ด้วย ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นได้ช่วงครึ่งปีหลัง(H2/58)
โบรกเกอร์ เป้าดัชนี SET (จุด) คาดการณ์ EPS ปี 58(%) GDP ปี 58(%) บล.เอเชียพลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(ASP) 1,530 31 - บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) หรือ PST 1,600 25 3.5 บล.เอเชีย เวลท์(AWS) 1,700 25 - บล.ทิสโก้(TSC) 1,680 26 3.2 บล.ทรินีตี้(TRINITY) 1,650 - - บล.เคที ซีมิโก้(KTZ) 1,480 - -
*ASP ปรับลดเป้าดัชนี SET ปี 58 ลงเหลือ 1,530 จุด พร้อมลดเป้าการเติบกำไรบจ.
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเชียพลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(ASP) กล่าวว่า ได้ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้(2558)ลงเหลือ 1,530 จุด จากเป้าหมายเดิม 1,650 จุด โดยได้มีการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯลง เป็นคาดเติบโต 31% จากเดิมคาดโต 36%
เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นได้ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ อีกทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยก็เป็นขาลง ทำให้ธนาคารพาณิชย์กำไรหายไปค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดีนักลงทุนสามารถลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากจ่ายเงินปันผลสูง และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าได้ อย่างหุ้นในกลุ่มส่งออก เช่น HANA เป็นต้น
*PST ลดเป้าดัชนี SET ปีนี้ลงเหลือ 1,600 จุด คิดค่า P/E 16 เท่า
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) หรือ PST กล่าวว่า ได้ปรับเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้(2558)ลงมาเหลืออยู่ที่ 1,600 จุด จากเดิม 1,690 จุด ซึ่งคิดค่า P/E 16 เท่า โดยคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะเติบโตประมาณ 25% ซึ่งฝ่ายวิจัยได้มีกาปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯแล้วหลังจากที่ผลกำไรออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้
ด้านตัวเลข GDP ของไทยในปีนี้(2558)ก็ได้มีการปรับลดการเติบโตมาเหลือ 3.5% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 4% อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นหุ้นที่น่าลงทุนเป็นหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากได้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว และหุ้นในกลุ่มเช่าซื้อ รวมถึงนาโนไฟแนนซ์ด้วย เนื่องจากได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
ส่วนหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง ก็สามารถทยอยซื้อได้ เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/58)โครงการของภาครัฐฯน่าจะช่วยหนุนได้
*AWS ลดเป้า SET มาอยู่ที่ 1,700 จุด คิด P/E 17 เท่า
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์(AWS) กล่าวว่า ล่าสุดได้มีการปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ลงมาอยู่ที่ 1,700 จุด จากเดิมมองเป้าไว้ที่ 1,850 จุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทางฝ่ายวิจัยได้มอง Aggressive อยู่แล้ว ทั้งนี้ที่ระดับดัชนีเป้าหมายใหม่คิดค่า P/E 17 เท่า และคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯจะเติบโตประมาณ 25% จากปี 2557
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจเข้าลงทุน มองเป็นหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง โดยรับประโยชน์จากโครงการพื้นฐานของภาครัฐฯ นอกจากนี้ก็มีหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, โรงแรม, อาหาร อย่างหุ้นสายการบินต่าง ๆ และ AOT รวมถึงหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล และหุ้นในกลุ่มส่งออก อย่างกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ เนื่องจากได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า
นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่น่าสนใจเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมองว่าราคาน้ำมันได้ขยับขึ้นมาประมาณ 20% แล้ว รวมถึงราคาปิโตรฯก็เริ่มเห็นการขยับขึ้นมาด้วย
*TSC เล็งปรับลดเป้า SET ลงจากเดิม 1,680 จุด หลังปรับลดเป้า GDP ปีนี้แล้ว
แต่ทั้งนี้ ล่าสุดฝ่ายวิจัยได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโต GDP ของไทยในปีนี้ลงเหลือ 3.2% จากเดิมที่คาดว่า GDP จะเติบโตในปีนี้ 3.5% จึงทำให้อาจจะต้องมีการปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ลงด้วย
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เหลือของปีนี้(2558)มองว่าหุ้นที่น่าสนใจเข้าลงทุน ยังน่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/58)น่าจะได้เห็นโครงการของภาครัฐฯเกิดมากขึ้น นอกจากนี้หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลงก็น่าสนใจ อย่างหุ้นในกลุ่มลิสซิ่ง และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายรากหญ้า รวมถึงหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บางตัวที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดี อย่างหุ้น AP และ QH เป็นต้น
*TRINITY ยังคงเป้าดัชนี SET ที่ 1,650 จุด มองกลุ่มพลังงาน-ส่งออกน่าลงทุน
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรินีตี้(TRINITY) กล่าวว่า บริษัทฯยังคงเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้(2558)ไว้ที่ 1,650 จุด คิดค่า P/E 14.3 เท่า ซึ่งได้มีการคิด Earing ของปีหน้า(2559)ที่คาดว่ากำไรของบริษัทฯจะเติบโต 15% จากปี 2558 และคาดว่าน่าจะได้เห็นดัชนีฯถึงเป้าหมายดังกล่าวนี้ในช่วงไตรมาส 3/58
สำหรับหุ้นที่น่าลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้(2558)มองว่าเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นได้ช่วงครึ่งปีหลัง(H2/58)และก็ควรจะลงทุนหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจต่างประเทศ อย่างหุ้นในกลุ่มส่งออก ซึ่งยังได้รับผลบวกจากเงินบาทที่อ่อนค่าลงด้วย แต่ให้หลีกเลี่ยวหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ แม้ว่าจะมีประเด็นโครงการพื้นฐานของภาครัฐฯ แต่ก็มองว่ามีความเสี่ยงได้ตลอด