อย่างไรก็ตามคาดว่าในส่วนของรายได้ปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำตาลปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยคาดว่าราคาเฉลี่ยน้ำตาลในปีนี้จะอยู่ที่ 14.8 เซนต์/ปอนด์ ขณะที่สัดส่วนรายได้จากการขายน้ำตาลอยู่ที่ 60% อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้อื่นๆเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 40% ในระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้
"ปีนี้รายได้ของเราก็คงจะทำได้เพียงทรงตัวจากปีก่อนเท่านั้น เพราะสัดส่วนรายได้หลักของเรายังมาจากการขายน้ำตาล ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาราคาปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามเราคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อนจากการรับรู้รายได้จากไฟฟ้าที่จะเริ่มเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับราคาเอทานอล ปรับตัวดีขึ้น และปริมาณการขายเยื่อกระดาษปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้เราเชื่อว่าราคาน้ำตาลจะไม่ปรับตัวลดลงไปมากกว่านี้แล้ว เนื่องจากประเทศไทยเองก็คงจะเจอกับปัญหาภัยแล้ง และในประเทศบราซิลเองก็ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนัก จึงทำให้ปริมาณน้ำตาลที่จะออกมาใกล้เคียงกับความต้องการในตลาดมากขึ้น เราจึงมองว่าราคาคงจะทรงตัวได้"นายณัฎฐปัญญ์ กล่าว
นายณัฎฐปัญญ์ กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/58 โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตราว 10-20% จากไตรมาส 1/58 ที่มีรายได้ 3.8 พันล้านบาท และกำไรสุทธิจะดีกว่าไตรมาส 1/58 ที่ 554.9 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 13% โดยได้รับผลดีจากราคาเอทานอล ที่ปรับตัวดีขึ้น และปริมาณการขายเยื่อกระดาษปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นด้วย