ขณะที่บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายรวมปีนี้ที่ 1,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน หลังจากที่ได้เปิดตัวเครื่องกรองน้ำรวม 9 รุ่น ผ่าน 4 ช่องทางการขาย คือ ขายตรงผ่านพนักงานขายของบริษัท ซึ่งมีกว่า 1 พันคนทั่วประเทศ, โมเดิร์นเทรด, Online และโครงการอสังหาริมทรัพย์ (Real estate Project) โดยได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ผลจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ตลอดจนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ
พร้อมกันนี้ บริษัทอยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ๆเพิ่มเติมอีกด้วย โดยในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จาก เครื่องกรองน้ำ 95% และ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆอีก 5% จากปีในช่วงไตรมาส 1/58 บริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากเครื่องกรองน้ำ 96% และ เครื่อใช้ไฟฟ้า 4%
นอกจากนี้บริษัทฯได้มีการปรับแผนการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 8 สาขา จากเดิมที่มีแผนสาขาใหม่เพียง 5 สาขา โดยจะมีงบลงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท/1 สาขา ซึ่งการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากที่สุด รองรับความต้องการของลูกค้า
สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/58 บริษัทมั่นใจว่าจะดีกว่าไตรมาส 1/58 ที่มีรายได้ 333.15 ล้านบาท และดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีการขยายช่องทางการขายใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเจรจากับร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่น เพื่อทดลองนำเครื่องกรองน้ำเข้าไปวางจำหน่ายกว่า 10 สาขา ซึ่งจะช่วงผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อีกทางหนึ่ง
"เรามั่นใจว่าผลประกอบการทั้งในด้านรายได้ และกำไรสุทธิปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งในช่วงต้นปีผ่านมาเราได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ถึง 9 รุ่น และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และเรายังมองหาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและ เครื่องกรองน้ำ สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/58 จะดีกว่า ไตรมาส 1/58 และดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะเรามีการขยายจุดจำหน่ายเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง"นายวีรวัฒน์ กล่าว
นายวีรวัฒน์ กล่าวถึงการขยายกิจการในต่างประเทศว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างบริหารธุรกิจในประเทศให้มีเสถียรภาพก่อน และบริษัทจะมีการศึกษาอย่างจริงจังในปี 59 โดยมองประเทศที่มีความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนคือ เวียดนาม อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ โดยรูปแบบจะเป็นการเข้าไปร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อตั้งสาขา