เนื่องจากทิศทางของดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำและอาจไม่จูงใจสำหรับนักลงทุน โดยหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% ในเดือนที่ผ่านมา เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยงขาลง โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% ตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากทรงตัวอยู่ในระดับต่ำนั้น
กองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงสูง นอกจากนี้กองทุนนี้ยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินในตลาดโลก โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุประมาณ 1 ปี หรือสามารถเลิกกองทุนก่อนครบกำหนดโครงการ หากหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.60 บาท หรือ 6% ณ วันทำการใด โดยจะเสนอขายครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. – 4 มิ.ย. 58 นี้
“หลังจากที่ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 2 ครั้งติดต่อกันในเดือน มี.ค. – เม.ย. รวม 0.50% ทำให้เรามองว่า ปีนี้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝาก และผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดเงินไม่จูงใจอีกต่อไป ซึ่งกองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล โบนัส 7F จะเป็นทางเลือกการลงทุนที่ตอบโจทย์นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงสูง โดยเป็นกองผสมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี และลงทุนในหุ้นจีนอีกไม่เกิน 25% ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากและตราสารหนี้"นายสาห์รัช กล่าว