ขณะที่ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,300 ล้านบาท ปัจจุบันรายได้ของบริษัทฯประมาณ 60% จะมาจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ 25% ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในผลิตภัณฑ์ประเภทนมและนมเปรี้ยว 12% ที่เหลือเป็นโรงพ่นสีและบรรจุภัณฑ์ในงานเคมี
ทั้งนี้ ธุรกิจโรงพ่นสีในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี เป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่จะทำรายได้และกำไรให้กับบริษัท โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถสร้างรายได้ราว 100-200 ล้านบาท และในปี 59 คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุน โดยขณะนี้มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 70-100 ล้านบาท และหากมีการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ (Full Capacity) จะสร้างรายได้ 600-800 ล้านบาท บริษัทมั่นใจว่าในปีหน้ากำไรสุทธิจะเติบโตได้เกิน 20% ประกอบกับปีนี้การลงทุนในจีนก็ถึงจุดคุ้มทุนไปแล้วจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทออกมาดีด้วย
“อนาคตธุรกิจโรงพ่นสีจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้รวมของบริษัทให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และทำให้สัดส่วนรายได้ในส่วนของธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 20-25% ของรายได้รวม จากเดิมอยู่ที่ระดับ 11-15% ของรายได้รวม และคาดว่าธุรกิจโรงพ่นสีจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปี และมีการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ภายใน 5-7 ปี"นายวิวรรธน์กล่าว
นายวิวรรธน์ กล่าวว่า ทิศทางผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 2/58 ก็น่าจะเติบโตได้ดีอยู่ ซึ่งทั้งปีนี้บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้า 10% โดยคาดว่ารายได้จากธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ในปีนี้จะขยายตัวประมาณ 100% ล่าสุดมีออเดอร์โมเดลรถยนต์จากค่ายรถยนต์ต่างๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยวคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 20% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากทิศทางตลาดนมส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวมากขึ้นในปีนี้
“การส่งออกนมมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ และแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกรถยนต์มีการเติบโตสูงถึง 100% ซึ่งปัจจุบันมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นออเดอร์ชิ้นส่วนพลาสติกของรถยนต์โมเดลใหม่ๆ" นายวิวรรธน์ กล่าว
บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้าใหม่อีก 1-2 รายในประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงปลายปี 2558 ขณะที่ออเดอร์จากลูกค้ารายเดิม 2 รายทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นในประเทศจีนปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น ตามความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่น และในปีนี้มียอดขายจากผลิตภัณฑ์ใหม่ของลูกค้ารายเดิม อย่างไรก็ตาม ในปี 62 บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากปัจจุบันที่ 10%
ขณะที่บริษัทคาดว่าในปีนี้อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)จะเพิ่มมาที่ 4% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.5% และบริษัทมองว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)น่าจะสูงขึ้นราว 2-3% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 14.61% เพราะต้นทุนการผลิตที่ลดลงตามราคาเม็ดพลาสติก ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ราคาปรับลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก
บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 50 ล้านบาท แบ่งเป็นประมาณ 30 ล้านบาทจะใช้สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในจีน และอีก 20 ล้านบาทจะใช้ลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรในไทย ปีนี้งบลงทุนของบริษัทจะไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับในอดีต เพราะได้มีการลงทุนไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การลงทุนในโรงพ่นสี เป็นต้น