อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าระดับ 366.96 ล้านบาทในปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตตามรายได้ และการออกโมเดลรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่มีทำให้การผลิตชิ้นส่วนมีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)สูงขึ้น รวมถึงบริษัทยังมีการบริหารจัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดี โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ระดับ 400 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
นอกจากนั้น บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้แตะ 3 หมื่นล้านบาทในปี 63 โดยจะใช้กลยุทธ์ขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้เป็น 50% จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 30%
นายเย็บ ซู ชวน ยังเปิดเผยอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าลงทุนหรือซื้อกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในอินเดีย มาเลเซีย และจีน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้อย่างน้อย 1 ดีล โดยบริษัทมีความพร้อมด้านเงินทุน เนื่องจากยังมีวงเงินหุ้นกู้เหลืออีก 700 ล้านบาทจากที่ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้ 1,500 ล้านบาท และได้ออกไปแล้ว 800 ล้านบาทเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา