นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการรอผลประมูลของการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)หลังจากที่มีการยื่นประมูลไปในช่วงก่อหน้านี้ คิดเป็นมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะทราบผลการประมูลในช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค. 58 และบริษัทเชื่อว่าจะคว้างานดังกล่าวมาได้ประมาณ 10-15 % ของมูลค่าโครงการทั้งหมด หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็จะส่งผลให้ในครึ่งปีหลังบริษัทจะรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับอัตราการเติบโตของบริษัทในปี 58 ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% จากปีก่อน
กลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ, กลุ่มเอกชน, กลุ่มส่งออก ทั้งนี้ประมาณการสัดส่วนรายได้บริษัทปีนี้ โดยแบ่งเป็นงานภาครัฐประมาณ 30-35% งานภาคเอกชนประมาณ 40-50% งานส่งออกประมาณ 15-20% งานบริการประมาณ 15-20%"นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯมีแผนในการปรับกลยุทธ์ด้านการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าเอกชน และตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯได้ขยายกลุ่มลูกค้าไปที่ประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับอานิสงส์จากแผนโครงการลงทุนโซลาร์ฟาร์มขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ทำให้ QTC มีโอกาสที่จะส่งออกหม้อแปลงไฟฟ้าไปยังญี่ปุ่นเพื่อรองรับความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้า
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนจะขยายฐานกลุ่มลูกค้าประเภทหม้อแปลงไฟฟ้าชนิด Dry-Type Cast Resin ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากมองว่าผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้าชนิดดังกล่าว ยังมีอัตราการขยายตัวได้สูง เนื่องจากเป็นหม้อแปลงที่ติดตั้ง เฉพาะภายในอาคารที่มีพื้นที่จำกัดเท่านั้น ดังนั้นทำให้เป็นเชื่อมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเพิ่มขีดความสามารถในเรื่องยอดขายให้บริษัทได้มากขึ้น โดยจะเห็นได้จากปัจจุบันบริษัทฯได้รับใบคำสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าชนิด Dry-Type Cast Resin เข้ามาอย่างต่อเนื่อง