สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/58 คาดว่าจะใกล้เคียงไตรมาส 1/58 ที่มีผลประกอบการออกมาดีมาก โดยมีรายได้ 328.52 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 60.81 ล้านบาท
"เรามั่นใจว่าผลประกอบการในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเรามีงานอยู่ในมือที่รอรับรู้รายได้แล้ว 900 ล้านบาท และเราจะรักษาปริมาณงานในมือให้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 2/58 เราพยายามทำให้ดีเท่าไตรมาส 1/58 เพราะผลประกอบการออกมาดีมาก หลังเราได้งานที่มีมาจิ้นสูงเข้ามา ตอนนี้เราได้มองไปถึงไตรมาส 3/58 แล้วว่าผลประกอบการก็คงจะออกมาใกล้เคียงไตรมาส 1/58 เพราะเราก็ได้พูดคุยงานกับพันธมิตรเดิมๆไว้เรียบร้อยแล้วว่าเราจะได้งาน"นายชเนศวร์ กล่าว
ทั้งนี้ นายชเนศวร์ มองว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมงานก่อสร้างและงานรากฐานปี 58 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆของภาครัฐบาลที่ประกาศไว้ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างกลางปีนี้ และงานโครงการรถไฟฟ้าอีก 3 สาย ซึ่งอยู่ระหว่างความชัดเจนเรื่องแหล่งเงินทุน คาดประมูลก่อสร้างช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนโครงการต่างๆ ของภาคเอกชนที่จะเข้ามาสนับสนุนภาพรวมอุตสาหกรรมด้วย นายชเนศวร์ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการย้ายจากตลาด mai เข้าไปอยู่ใน SET ว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/58 ซึ่งจะช่วยเสริมให้ศักยภาพของบริษัทฯให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ลงทุนที่สนใจ PYLON เข้ามาลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น