ดีแทคมุ่งเป้าสู่วิสัยทัศน์โมบายล์อินเทอร์เน็ตเป็นบริการหลักของการดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทย ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ใช้กลยุทธ์ปฏิรูปการทำงานด้วยโมเดลการบริหารและการทำตลาดแบบรายภูมิภาค(Regional Clustering model) ที่เน้นทำตลาดลงลึกทั่วทุกภาคของไทย ซึ่งปีนี้บริษัทฯวางงบลงทุนราว 20,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครงข่าย 3G ให้ครอบคลุม 95% ของประชากรทั้งหมด และขยายโครงข่าย 4G ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการขาย best in sales การจัดทำโปรโมชั่น แพ็กเกจ และการให้บริการศูนย์ดีแทค โดยดีแทคประสบความสำเร็จจนมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นในระหว่างไตรมาส 1/58 จำนวน 419,000 เลขหมาย ทำให้ฐานลูกค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 18.4 ล้านเลขหมาย
ดีแทคประเมินตลาดในประเทศไทยว่า กำลังเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงของตลาดโทรคมนาคมครั้งใหญ่ โดยในเวลาอันใกล้นี้ประเทศไทยต้องพร้อมวางโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมความเร็วสูงเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทั้งประเทศและเพื่อนำบริการดิจิทัลที่หลากหลายและซับซ้อนไปให้ถึงกลุ่มคนใช้งานใหม่ๆ จากสถิติ Thailand Social media Landscape, Marketing Oops พบว่ากลุ่มมิลเลนเนียม ซึ่งเป็นคนในช่วงวัย 18-34 ปี เป็นกลุ่มคนที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงที่สุด และกิจกรรมที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดในการใช้โซเชียลมีเดีย คือการอัพโหลดรูปภาพซึ่งมีปริมาณมากที่สุดในโลกถึง 495.5 ล้านรูปในปีที่แล้ว และ 85% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 35 ล้านราย มีพฤติกรรมชอบดูวิดีโอผ่านแอพพลิเคชั่นยูทูป และชมวีดีโอสตรีมมิ่ง
ทั้งนี้ ปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าใช้งานสมาร์ทโฟนมากถึง 14.9 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็น 52% ของลูกค้าทั้งหมด แนวโน้มเหล่านี้เอื้อต่ออัตราการเจริญเติบโตในอนาคตของอุตฯโทรคมนาคมและอุตฯที่เชื่อมโยงกันในระบบ ไม่ว่าจะเป็นอุตฯทางการเงิน การธนาคาร ธุรกิจบันเทิง เป็นต้น
วาระสำคัญของประเทศไทยคือการปลดล็อคศักยภาพ 4G อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ดีแทคต้องการที่จะเห็นภาครัฐเร่งวางโรดแมพคลื่นความถี่ที่จะนำมาประมูลในอนาคตอันใกล้ให้ชัดเจน การประมูลใบอนุญาตคลื่น 1800 Mhz และคลื่น 900 Mhz ในช่วงปลายปีนี้ นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของประเทศไทยที่จะเร่งบริหารจัดสรรคลื่นความถี่อันเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าของชาติมาใช้เป็นกลไลขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่สำคัญที่สุด ซึ่งดีแทคมองไปข้างหน้าว่า การนำคลื่นความถี่ที่ยังไม่ได้ใช้ เช่น 1800,850 และ 2,600MHz มาร่วมประมูลในอนาคตจะสร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพและพื้นที่ให้บริการ 4G ในครอบคลุมทั่วประเทศ
จากรายงานของ GSMA เรื่อง Building Thailand s Digital Economy and Society 2015 ระบุ ว่าจะมีจำนวนผู้ใช้งาน 4G สูงถึง 13.8 ล้านคน ในปี 2562 และอัตราการเข้าถึง mobile broadband จะพุ่งสูงจาก 55% เมื่อปี 2556 ไปเป็น 133% ในปี 2563 จะช่วยเพิ่ม GDP ของประเทศมากขึ้นอีก 7.3 แสนล้านบาท
และจากการคาดการณ์ของดีแทคต่ออัตราการเจริญเติบโตของธุรกิจ M2M ในประเทศไทยว่าจะมีจำนวนซิมที่ connected device มากถึง 400 ล้านเครื่องเป็นอย่างน้อยในระบบเศรษฐกิจที่สำคัญภายใต้ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ธุรกิจ M2M และ Internet of Things จะเป็นแกนหลักสำคัญที่จะถูกนำมาใช้ในอุตฯใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบบริหารและติดตามพิกัดตำแหน่งยานพาหนะระบบการจัดการส่งสินค้าหรือข้อมูล หรือแม้กระทั่งการนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในระดับผู้บริโภคทั่วไปในวงกว้าง ได้แก่ การติดตามเด็ก และผู้สูงอายุ และเพื่อสุขภาพ
ดีแทคจึงประกาศเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการให้บริการอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่สำคัญๆในต่างจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้กลยุทธ์ Internet for all เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด ดีแทคจึงปรับยุทธศาสตร์การดำเนินงานที่เน้นสร้างกลไกการขาย การตลาด และการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการปรับโครงสร้างการทำงานแต่งตั้งผู้ดูแลภูมิภาคใน 5 พื้นที่ Regional Business Head (RBH) ที่เปรียบเสมือน มินิซีอีโอ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจและการให้บริการลูกค้าทั่วประเทศ
ได้แก่ นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-กรุงเทพฯ และปริมณฑล นายปกรณ์ มโนรมย์ภัทรสาร ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคเหนือ นายวรวัฒน์ วงศ์สง่า ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายปัญญา เวชบรรยงค์รัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคใต้และตะวันตก นายอำนาจ โกศลรอด ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคกลางและตะวันออก
"การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ เพื่อให้บริษัทมีความเข้าใจ และสามารถตอบสนองความต้องการซึ่งเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่จะเสริมความแข็งแกร่งของการให้บริการในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีความต้องการที่แตกต่างกันไป และการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งมีอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้"
นายลาร์ส กล่าวว่า แต่ละทีมงานภูมิภาคใน 5 พื้นที่อยู่ภายใต้การดูแลของ RBH ซึ่งจะรับผิดชอบการขับเคลื่อนธุรกิจในพื้นที่ให้เป็นไปตามเป้าหมาย หน่วยงานดังกล่าวจะทำงานในรูปแบบผสมผสาน โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากหน่วยงานอื่นๆ ในบริษัท หัวหน้าทีมที่ดูแลทั้ง 5 พื้นที่นี้จะเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงสุดของดีแทค
การทำงานในระดับภูมิภาคเป็นแนวทางที่เทเลนอร์นำมาใช้ในหลายประเทศทั่วโลก ดีแทคได้เริ่มปรับการทำงานในระดับภูมิภาคมาแล้ว 8 เดือน และเริ่มมีพัฒนาการในการทำความเข้าใจแลทำงานในระดับภูมิภาคดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการโฟกัสพื้นที่ในการดำเนินธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ประกอบการวงจรการทำงานที่ดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้ดีแทคเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้ดีมากขึ้น โมเดลการทำงานในระดับภูมิภาคช่วยเสริมประสิทธิภาพและวัฒนธรรมการทำงานในดีแทคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากผู้บริหารในระดับหัวหน้าทั้ง 5 ภาคแล้ว ยังมีการแต่งตั้งผู้บริหารระดับโซนพื้นที่ 22 โซน และระดับพื้นที่ที่เล็กลงมา อีก 95 คน เพื่อให้เกิดการแข่งขันภายในของแต่ละทีมแต่ละพื้นที่และยังช่วยให้ทีมลงมือปฏิบัติงานได้ตรงจุด ซึ่งหัวหน้าทีมที่ดูแล 5 พื้นที่นี้จะรายงานผลการดำเนินงานตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และบริหารจัดการดูแลเยี่ยมเยือนผู้ร่วมธุรกิจ ผู้ค้าปลีกอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังมีการจัดประชุมวอร์รูมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล แก้ปัญหาในการทำงานและประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว วางแผนงานเป็นประจำรายวัน และสัปดาห์เพื่อให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวของการใช้งานดาต้าของลูกค้าในแต่ละพื้นที่