นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down เนื่องจากตลาดฯยังกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า และวันนี้ช่วงบ่ายแบงก์ชาติจะแถลงตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าภาพรวมยังไม่ฟื้นตัว ทำให้นักลงทุนอาจชะลอการลงทุนก่อนหยุดยาว 3 วัน และรอผลการเจรจาหนี้ของกรีซด้วย
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในช่วงเช้า แต่มาจนถึงขณะนี้เริ่มที่จะไหลมาอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยมีตลาดจีนที่ปรับตัวลงหนัก หลังจากที่ได้มีการเพิ่มมาตรการสกัดหุ้นร้อน
พร้อมให้แนวรับ 1,484-1,486 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500-1,505 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(28 พ.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,126.12 จุด ลดลง 36.87 จุด(-0.20%),ดัชนี
NASDAQ ปิดที่ 5,097.98 จุด ลดลง 8.61 จุด(-0.17%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,120.79 จุด ลดลง 2.69 จุด(-0.13%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 41.19 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 16.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 56.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.51 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 30.61 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.21 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(28 พ.ค.58)1,493.61 จุด ลดลง 7.23 จุด (-0.48%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 725.07 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 พ.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(28 พ.ค.58) ปิดที่ 57.68 ดอลลาร์/
บาร์เรล เพิ่มขึ้น 17 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(28 พ.ค.58)ที่ 8.12 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.73/74 คาดแกว่งแคบ จับตาตัวเลข GDP Q1/58 ของสหรัฐฯ
- "ประสาร" เผย ธปท.เริ่มปรับสมมติฐานผลค่าเงินบาทต่อภาคส่งออก รับค่าเงินอ่อนส่งผลมากขึ้น จากการค้าโลกเปลี่ยน ขาดกำลังซื้อหันมาแข่งขันราคา ด้าน "ปรีดิยาธร" พอใจค่าเงิน มั่นใจส่งออกฟื้นไตรมาส 3 ปีนี้ ขณะมูดี้ส์หนุนเรทติ้งไทย จากฐานการเงินการคลังแกร่ง
- แบงก์รัฐทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังคลังเรียกคุยหลายรอบให้ทำหน้าที่ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ "เอสเอ็มอีแบงก์" ใจป้ำลดตาม กนง.รวดเดียว0.25% ส่วน "ออมสิน" ลดดอกเบี้ยเงินฝาก 0-0.15% พร้อมปรับลดเงินกู้เอ็มแอลอาร์ 0.05% ส่วน เอ็มโออาร์และเอ็มอาร์อาร์ลดลง 0.15% มีผล 28 พ.ค. "สาลินี" เผยบอร์ดมีมติจ่ายโบนัส 1 เดือน ขณะที่กำไรรอบ 4 เดือน 425 ล้าน ยอดเบิกจ่ายสินเชื่อ 1.1 หมื่นล้าน มั่นใจทั้งปีโตตามเป้า
- สศค.เผยเศรษฐกิจเดือนเมษายนยังโตได้จากการบริโภคภาคเอกชน แรงหนุนภาคท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซีย ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยทั้งภายในและภายนอกอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยอมรับการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวโดยเฉพาะการลงทุนในหมวดก่อสร้าง
- สภาผู้ส่งออกชี้ปัญหากระทบส่งออกยังสูง ทั้งการไม่ฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย-นอก กำลังซื้อฝืด ค้าชายแดนเริ่มติดลบ ประเมินภาวะส่งออกติดลบ ต่อเนื่อง ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้น ทั้งปีฟันธงติดลบ กระทบยอดผลิตอุตสาหกรรม เม.ย.ต่ำสุด 40 เดือนดัชนีใกล้เคียงน้ำท่วมใหญ่
- สรท.ชี้ปี 58 ส่งออกจ่อขยายตัวติดลบ เผยห่วงการค้าชายแดนเริ่มหดตัว ระบุสัญญาณอันตราย ด้าน หม่อมอุ๋ย-ประสาร" ชี้บาทอ่อนอุ้มส่งออก มองค่าเงินยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อ ลุ้นเศรษฐกิจครึ่งหลังฟื้นตัวดีขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- LIT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 5.22 บาท เป็นหุ้นขนาดเล็กที่มีความสามารถในการทำกำไรที่น่าสนใจและมีเป้าการเติบโตของสินเชื่อสูงราว 30% ในปีนี้ และน่าจะต่อเนื่องอีก 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังได้อานิสงส์จากการที่ลูกค้าถูกปฏิเสธจากสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อใหม่เข้มงวดมากขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่คุณภาพสินเชื่อมีความเสี่ยงต่ำเพราะเป็นสินค้าที่เชื่อมโยงกับหน่ายงานรัฐ และเมื่อเศรษฐกิจขยายตัว LIT จะได้ประโยชน์จากงานประมูลทั้งภาครัฐและเอกชนเพราะเป็นผู้ให้สินเชื่อตั้งแต่เริ่มประมูลจนจบโครงการ และคาดเงินปันผลตอบแทน 3.2% (0.15 บาท/หุ้น)
- PLANB(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 6 บาท แม้งบโฆษณาจะอ่อนไหวมากต่อเศรษฐกิจและเป็นค่าใช้จ่ายแรกๆแรกที่ถูกตัดในช่วงเศรษฐกิจชะลอ แต่ในจำนวนสื่อทั้งหมด สื่อโฆษณานอกบ้านเติบโตอย่างรวดเร็วและโตสูงกว่าตลาดรวมจาก Lifestyle ของผู้คนที่ใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น การร่วมมือกับ Hello Bangkok ทำให้ PLANB กลายเป็น Supplier รายใหญ่สุดในกลุ่มสื่อนอกบ้าน มี Market share ในสื่อกลางแจ้งประเภทดิจิตอล 91% จากเดิม 55% ปัจจุบันมี Backlog เกือบ 1.3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดกำไรปกติปี 2015 โตถึง 86% Y-Y
- BTS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 11.80 บาท ความน่าสนใจอยู่ที่ Dividend yield ที่สูง 7% หรือ 0.67 บาท/หุ้น จากนโยบายเงินปันผลที่ตั้งไว้ 8 พันล้านบาทสำหรับผลประกอบการปี 2016 (สิ้นสุด มี.ค. 2016) ขณะที่ธุรกิจหลักมั่นคงแข็งแกร่งแม้ว่ากำไรสุทธิในปีนี้อาจเติบโตเพียงเล็กน้อย เราคาด +2% Y-Y ตามธุรกิจสื่อโฆษณาและอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ ซึ่งชดเชยได้ไม่หมดจากธุรกิจเดินรถไฟฟ้า สำหรับประโยชน์ที่จะได้จากการร่วมทุนกับ SIRI และโอกาสในการได้สิทธิในการเดินรถไฟฟ้าโครงการใหม่ของรัฐบาล จะมาช่วยต่อยอดการเติบในอนาคต
- MINT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 37.50 บาท ชอบปัจจัยพื้นฐานของ MINT ในเรื่องการกระจายฐานกำไรที่หลากหลาย ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี มีแผนการขยายธุรกิจที่น่าสนใจ และแนวโน้มการฟื้นตัวที่สดใส โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 58-59 เติบโตแข็งแกร่ง โดยประมาณการไว้ที่ 27% และ 21% ตามลำดับ