ทั้งนี้ ผู้รับมอบฉันทะของนายศิริธัชได้ไปลงทะเบียน กลับมีลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยทั้ง 10 คนไม่รับการลงทะเบียน โดยอ้างว่าจำเลยทั้ง 10 คนมีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้รับมอบฉันทะจากนายศิริธัชเข้าร่วมประชุม และห้ามผู้ถือหุ้นรายอื่นๆเข้าร่วมประชุมซึ่งมีสิทธิเข้าร่วมประชุมและออกลงมติตามกฎหมาย แต่กลับให้ยินยอมให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆซึ่งแสดงตนเป็นชมรมคนรักเนชั่นหรือแสดงตนเป็นพวกพ้องของจำเลยทั้งทั้ง 10 คนให้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นได้
สำหรับนายศิริธัช ระบุว่า จำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 10 ในฐานะกรรมการและผู้บริหารบริษัท ควรปฏิบัติหน้าที่อย่างมีมาตรฐานทางจริยธรรมโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกรายโดยเท่าเทียมกัน แต่กลับไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์และทำการโดยสุจริต เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ฝ่ายเดียว อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมมาภิบาลและหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
นายศิริธัช จึงฟ้องให้จำเลยทั้ง 10 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 1.ค่าเสียหายที่ถูกตัดสิทธิไม่ให้เข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 2.ค่าเสียหายที่ทำให้หลักทรัพย์ของนายศิริธัช มีมูลค่าตกต่ำลง เนื่องจากผู้บริหารไม่มีธรรมาภิบาล ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่โดยขัดต่อกฎหมายและข้อบังคับ เป็นเหตุให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นที่จะลงทุนหรือถือหุ้น NMG และ 3.ค่าเสียโอกาส รวมเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 51,900,800 บาท พร้อมกันนี้ศาลได้รับคำฟ้อง และศาลได้นัดจำเลยทั้งหมด ในวันที่ 10 ส.ค.58 เวลา 13.30