นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APCO คาดว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 425.81 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2 พันล้านบาท เนื่องจากมีความเข้าใจผิดในแง่ของการสื่อสาร หลังจากบริษัทได้มีการตั้งธุรกิจดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเป็นการขายสินค้าออนไลน์ทั่วโลกที่มีการคาดหมายรายได้ราว 40-50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.5 พันล้านบาท แต่ไม่ได้มีการระบุว่ารายได้ในส่วนนี้จะเข้ามาเมื่อใด
อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปีก่อน 118.77 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเน้นการขายสินค้าที่มีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)สูง ประกอบกับมีการบริหารจัดการต้นทุนการขายได้ค่อนข้างดี
ขณะเดียวกัน หากการขายหุ้นเพิ่มทุน(PO)ให้ผู้มีอุปการะคุณที่ซื้อผลิตภัณฑ์ APCO ตั้งแต่ 1 พ.ค.-18 พ.ย.58 จะทำให้บริษัทมีกำไรพิเศษจากขายสินค้าเพิ่มเข้ามาอีก 175 ล้านบาท ซึ่งจำนวนหุ้น PO 250 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท ผู้ซื้อสินค้าจะได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 1 บาทต่อ 1 หุ้น พร้อมจัดสรรหุ้นสมนาคุณเพิ่มให้อีก 5% จากส่วนที่ได้รับการจัดสรร โดยคาดว่าจะมีการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวในวันที่ 19-26 พ.ย.58 ซึ่งจะกำหนดราคาใช้สิทธิย้อนหลัง 7 วันทำการ ณ วันขายหุ้น
"เรามั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อน แม้รายได้จะทำได้เพียงใกล้เคียงกับปีก่อนเท่านั้น เพราะเราเน้นการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และเราก็ได้มีการบริหารจัดการต้นทุนทางการไดยได้ค่อนข้างดี นอกจากนี้ห่กการขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้มีอุปการะคุณที่ซื้อผลิตภัณฑ์ APCO ตั้งแต่ 1 พ.ค. -18 พ.ย. 58 จะทำให้บริษัทฯ มีกำไรพิเศษจากขายสินค้าเพิ่มเข้ามาอีก 175 ล้านบาท เราจึงคอข้างมั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะออกมาได้ดี"นายพิเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากการขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวแล้วเสร็จ บริษัทจะมีการยื่นขอตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อย้ายเข้าซื้อขายในกระดาน SET พร้อมตั้งเป้าติด SET100 ทันที โดยเชื่อว่าการมุ่งหน้าพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องจะทำให้คุณสมบัติ APCO ผ่านเกณฑ์ SET100 อย่างแน่นอน