TASCO ปรับเพิ่มปริมาณขายยางมะตอยปีนี้เป็นโต 15-20% ตามดีมานด์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 4, 2015 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) กล่าวว่า บริษัทฯมั่นใจรายได้-กำไรปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่จากความต้องการยางมะตอยในประเทศและต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น โดยบริษัทฯได้ปรับเพิ่มเป้าหมายปริมาณการขายยางมะตอยปีนี้เป็น 15-20% จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 10% จากปีก่อนที่มีปริมาณการขาย 2.03 ล้านตัน ซึ่งมีปัจจัยจากหลายประเทศประกาศเดินหน้าลงทุนระบบโลจิสติกส์ รวมไปถึงการที่รัฐบาลของประเทศไทยมีการประกาศแผนแม่บทกระตุ้นเศรษฐกิจ(โรดแมพ) ผ่านการขยายเส้นทางคมนาคมขนส่งซึ่งเป็นแผนระยะยาว

ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยก็ได้มีการจัดสรรงบเพิ่มเติม 40,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณของกรมทางหลวง 25,000 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท 15,000 ล้านบาท

ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเบิกง่ายและเรียกผู้ประกอบการไปเซ็นสัญญาได้ในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้ปริมาณความต้องการยางจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในไตรมาส 3/58

ขณะที่ราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันส่วนทางกับราคาขายยางมะตอยที่ยังอยู่ในระดับสูงเพราะดีมานด์มากกว่าซัพพลายทำให้มาร์จิ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยสิ้นไตรมาส 1/58 มีอัตรากำไรสุทธิ 13.43% จากสิ้นปี 57 ที่ 2.60%

สำหรับปีนี้บริษัทฯ ตั้งงบลงทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงซื้อเรือและรถขนส่งยางมะตอย โดยบริษัทฯมีการเพิ่มจำนวนเรือ เป็น 16 ลำ/ปี จากปกติ 12 ลำ/ปี เพื่อรองรับผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และช่วยเสริมยอดขายในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเดือนพ.ย.นี้ ทางบริษัทฯ เตรียมวางแผนการเติบโตระยะยาวถึงปี 63 จากปัจจุบันสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่เคยวางไว้แล้ว ซึ่งจากนี้ก็น่าจะเห็นภาพการเติบโตของ TASCO ว่าจะมีการเติบโตไปในทิศทางใดต่อไป

"ผลประกอบการปีนี้เรา มั่นใจว่ารายได้และกำไรสุทธิจะทำนิวไฮต์ต่อเนื่อง เนื่องจากดีมานด์ยางมะตอยเพิ่มขึ้นจากการพัฒนา-ปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่ทำสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นมาถึง 36% ในไตรมาส 1/58 จากปกติที่อยู่ราว 16% ของยอดขายรวมทั้งหมด ขณะที่มองยอดขายปริมาณการขายปีนี้น่าจะโตอย่างน้อย 15-20%เมื่อเทียบกับปีก่อน" นายชัยวัฒน์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/58 คาดว่าจะเติบโตกว่าไตรมาส 1/58 อย่างน้อย 10-15% ขณะเดียวกันไตรมาส 3/58 ถือว่าเป็นไตรมาสที่มีการเติบโตสูงสุด มองว่าจะเติบโตกว่าไตรมาส 1/58 ได้ราว 20% ซึ่งเป็นไปตามความต้องการทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ