บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BDMS)แม้จะเลื่อนเป้าหมายที่จะมีโรงพยาบาล 50 แห่ง ในปี 2015 เป็นภายในปี 2017-18 ไม่หมายความว่าข่าวนี้เป็นข่าวร้าย เนื่องจากราคาสินทรัพย์ที่สูง และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ทำให้มีปัจจัยผลักดันการเติบโตในช่วง 2H15 ลดลง เนื่องจากมี upside จากราคาหุ้นที่จำกัด BDMS จึงไม่ได้เป็น Top Pick อีกต่อไป
แม้อยู่ในช่วงลงทุนและเศรษฐกิจชะลอตัว แต่คาดว่าผลการดำเนินงานของ BDMS จะยังคงเติบโต 13%, 14% และ 15% ในปี 2015-17F โดยมีสาเหตุหลักมาจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงพยาบาลที่มีอยู่ และมีผลขาดทุนจากโรงพยาบาลใหม่ที่ลดลง คาดว่ารายได้รวมของ BDMS จะยังคงเติบโต 10-13% ในปีดังกล่าว อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยคาดว่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจาก 32.9% ในปี 2014 มาอยู่ที่ 33.4% ในปี 2017F ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายของกลุ่มโดยรวมคาดว่าจะลดลงจาก 20.7% ในปี 2014 มาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 19.9% ในปี 2015-17F
ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไร 1-2% ในปี 2015-17F สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสามประการ คือ 1) การบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอซึ่งทำให้ปรับลดสมมติฐานการเติบโตของจำนวนผู้ป่วยไทย แต่ปรับเพิ่มจำนวนผู้ป่วยต่างชาติ 2) ปรับลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลง สะท้อนประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายของ BDMS ที่แข็งแกร่งกว่าคาด และ 3) ปรับเพิ่มส่วนแบ่งกำไรจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
ราคาเป้าหมาย DCF ถูกปรับขึ้นเป็น 22.70 บาท จาก 22.30 บาท ด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจในระยะยาว และมีอัตราการเติบโตของ EPS เฉลี่ยต่อปีในช่วง 3 ปีที่ยั่งยืนที่ 14% ในปี 2015-17F