AWS ชี้ปัญหากรีซ-สหรัฐจะขึ้นดบ.เร็ว เป็นปัจจัยกดดัน SET, จับตา กนง.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 8, 2015 15:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ (AWS) กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นปัจจัยหนี้สินของกรีซ ซึ่งกรีซยังคงไม่ชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จำนวน 300 ล้านยูโร ที่ครบกำหนดชำระเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยจะไปชำระรวมทีเดียวจำนวน 1.6 พันล้านยูโร สิ้นเดือนนี้ ขณะเดียวกันกรีซยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ และน่าจะตกลงกันยาก เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีกรีซ คนปัจจุบัน ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจาก มีนโยบายหลักว่าจะไม่ยอมรับเงื่อนไขของเจ้าหนี้ ที่ให้กรีซขายรัฐวิสาหกิจ, ลดค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ และตัดทอนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า กรีซจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งฉุกเฉิน ขึ้นมาในระยะเวลาไม่นานนี้ เพื่อดูว่าประชาชนกรีซจะยังคงสนับสนุนรัฐบาลปัจจุบันที่ไม่ยอมรับเงื่อนไขเจ้าหนี้ให้อยู่ต่อไปหรือไม่ ดังนั้น ปัจจัยเรื่องกรีซ จะยังคงกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกตราบเท่าที่ยังไม่มีข้อยุติ ขณะที่การที่สหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดเดิม ยังกดดันตลาดหุ้นโลกอยู่เช่นกัน

ด้านปัจจัยในประเทศ วันที่ 10 มิถุนายน นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้น้ำหนักกับตัวเลขการส่งออกค่อนข้างมาก ซึ่งการประชุมครั้งที่ผ่านมา กนง. ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว ทั้งนี้ มุมมองว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยอีกหรือไม่ ยังไม่ชัดเจนนัก แต่หากมองจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอยู่ ซึ่งยังคงเป็นไปตามความต้องการของ กนง. หาก กนง. คงอัตราดอกเบี้ยก็จะไม่ได้กระทบต่อตลาด

แต่หาก กนง. มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้อีก ก็น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการส่งออก ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มอิเลคทรอนิค และกลุ่มสินค้าเกษตร แต่เม็ดเงินลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศจะไหลเข้าน้อยลงเนื่องจากอาจจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนได้ ซึ่ง SET Index อาจจะโดนกระทบจากการที่ต่างชาติไม่เข้าซื้อเพิ่ม และการขายออกของต่างชาติ แต่นักลงทุนในประเทศจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น เนื่องจาก Sentiment ของตลาดดี ทำให้โดยรวมมองว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ไม่ไปไหน

“ด้านเทคนิค สัปดาห์นี้เรามองแนวรับสัปดาห์นี้ที่ 1,486 จุด และแนวต้านที่ 1,518 จุด สำหรับคำแนะนำการลงทุน หากมอง Flow การลงทุนของตลาดโลก ที่มีการเทขายพันธบัตร ออกมาเยอะและกองทุนทั้งหลายในโลกหันเข้ามาซื้อหุ้น แสดงให้เห็นว่า ทั่วโลกมองว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มต้นที่จะฟื้นตัว และตลาดหุ้นน่าจะอยู่ในขาขึ้น แต่ยังถูกกดดันจากปัจจัยเรื่องกรีซและการที่สหรัฐฯจะขึ้นดอกเบี้ยปีนี้อยู่ ดังนั้น คำแนะนำ การลงทุนในช่วงนี้ คือให้ทยอยเก็บหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มี Valuation ถูก โดยเน้นหุ้นที่มี Dividend yield สูง เพื่อให้มีเงินปันผลมาชดเชยในช่วงที่หุ้นยังอ่อนแออยู่ และเรายังมีหุ้นดีอยู่ในมือ โดยทยอยรับ ไม่ไล่ราคา เช่น ADVANC, INTUCH , และ BTS รวมทั้งหุ้นที่ธุรกิจมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน หรือ Turnaround เช่น PTTGC, PTT, และ WORK" นายวรุตม์ กล่าว

Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำลงทุนในหุ้น บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป และเครื่องแต่งกาย เช่น กางเกงยีนส์ และนาฬิกาแฟชั่น ด้วยแนวโน้มธุรกิจที่จะเติบโตได้ดีในปีนี้ จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่จะค่อย ๆ ดีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งคาดว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณในเดือนกันยายน รัฐบาลน่าจะมีการเบิกจ่ายไม่ต่ำกว่า 87% ซึ่งจะผลักดันให้ภาคเอกชนมีการลงทุน และกระตุ้นการใช้จ่ายการบริโภคของภาคครัวเรือนให้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อ MC จะมียอดขายที่ดีขึ้น

“ปีนี้และปีหน้า เราประเมินว่า MC จะมีอัตราการขยายตัวของกำไรที่ระดับ 15-18% และมี Dividend yield ที่ระดับ 4.6-4.9% ส่วน P/E อยู่ที่ระดับ 15 เท่า และ ในแง่ Valuation ของ MC ราคาหุ้นยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ในเชิงเทคนิค เกิดสัญญาณซื้อรายวัน และรายสัปดาห์ที่แข่งแกร่ง และเริ่มเห็นสัญญาซื้อรายเดือน จึงแนะนำซื้อ MC โดยเราให้ราคาเป้าหมาย ที่ 23.60 บาท" นายวรุตม์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ