“โครงการที่พัฒนาให้กับ “พรีโม่ เอ็นเนอร์จี" เป็นลักษณะเทิร์นคีย์ (โครงการที่พัฒนาจนแล้วเสร็จในสภาพพร้อมใช้งานแล้วจึงส่งมอบแก่ผู้ซื้อ) คือ พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า พร้อมใบอนุญาตและจัดโครงสร้างการลงทุนพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้กับเจ้าของโครงการผ่านบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทย่อย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้ทันทีหลังจากนี้"นายอนาวิล กล่าว
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถือเป็นตลาดด้านพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยที่ผ่านมารัฐบาลญึ่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนด้วยการรับซื้อไฟในระบบให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed in Tariff) หรือ FiT จึงทำให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งบริษัทฯ พร้อมจะพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับทุกความต้องการของลูกค้า โดยใช้ความได้เปรียบด้านการบริหารจัดการอย่างผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ ทำให้สามารถพัฒนาโครงการคุณภาพได้ในต้นทุนที่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ได้รับการตอบรับจากพันธมิตรเป็นอย่างดี จนนำมาสู่การพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน “พรีเมียร์ โซลูชั่น"ได้พัฒนาโครงการให้กับพันธมิตรทั้งสิ้น 150 เมกะวัตต์
นายอุกฤษฏ์ ตัณฑเสถียร กรรมการบริหาร บริษัท พรีโม่ เอ็นเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศญี่ปุ่นถือว่ามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากภาครัฐให้การสนับสนุน ในขณะเดียวกันเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้จากการลงทุนได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ บริษัทฯ จึงสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจดังกล่าว โดยมอบหมายให้กลุ่ม CHOW เป็นผู้พัฒนาโครงการ เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงานทดแทนเป็นอย่างดี
สำหรับโครงการแรกนี้คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/59 เป็นต้นไป นอกจากนั้นหลังจากนี้มีความเป็นไปได้ที่จะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นในเฟสต่อไป หากได้โครงการที่เหมาะสม สอดคล้องกับแผนการลงทุนของบริษัท