"เรามองว่าครึ่งปีหลังยานยนต์คงจะยังไม่กลับ ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาถึง 2 ปีจากนี้ ก็เป็นไปตามภาวะอุตสหกรรม และเศรษฐกิจที่ไม่ได้เอื้อกับเรามากนัก ซึ่งต้องยอมรับว่าสัดส่วนรายได้ยานยนต์ลดลงไปถึง 25% เราก็เลยเริ่มมองหาช่องทางที่จะเข้ามาชดเชยรายได้ในส่วนนี้ จึงกลายเป็นธุรกิจผลิตเครื่องจักรกล ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง โดยช่วงที่เหลือของปีนี้ เราจะรุกการทำตลาดมากขึ้น โดยวางงบการตลาดและการประชาสัมพันธ์ไว้ 2-3 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้ารู้จักโปรดักส์มากขึ้น"นายนรากร กล่าว
ช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะมีการออกผลิตภัณฑ์ชิ้นที่ 3 และ 4 อย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องทำยางเครป ,เครื่องล้างผักแบบอุลตร้าโซนิค รวมถึงเครื่องสีข้าวชุมชน หลังจากบริษัทเริ่มจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตรบ้างแล้ว อย่างเครื่องฆ่ามอดในข้าวที่ทำให้ไม่ต้องใช้สารเคมี ซึ่งตั้งเป้ายอดขายไว้ 500 เครื่องภายใน 3 ปี และเครื่องปลูกมันสัมปะหลังที่ตั้งเป้าหมายไว้ 400 เครื่องภายใน 2 ปี โดยลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มเกษตรกรรายย่อย
ล่าสุด บริษัทฯได้ลงนามบันทึกความเข้าใจข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการสินเชื่อเครื่องจักรกลการเกษตร กับ บมจ.จีแคปปิตอล (GCAP) เพื่อตอบสนองต่อปัญหาและความต้องการใช้งานเครื่องจักรกลการเกษตรในภาคการเกษตรของประเทศไทย รวมถึงสนับสนุนโอกาสแก่เกษตรกรในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ เพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย มีคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการใช้งาน มีอาชีพและรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวและชุมชน นำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่มั่นคงยั่งยืนกับเกษตรกรไทย
นายนรากร เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้าหมายยอดรายได้ในปีนี้เติบโต 100% หรือแตะ 770 ล้านบาท โดยบริษัทมีงานในมือปัจจุบัน (Backlog) อยู่ราว 100 ล้านบาทที่จะรับรู้ภายในปีนี้ทั้งหมด ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานเพิ่มเติมอีก มูลค่ารวม 250 ล้านบาท คาดหวังจะได้รับงานราว 30%
นอกจากนี้ บริษัทย่อย อย่างบริษัท ยูเรกา ออโตเมชั่น จำกัด จะสามารถสรุปดีลการเจรจาซื้อกิจการในธุรกิจผลิตหุ่นยนต์ใช้ในโรงงาน ภายในไตรมาส 3/58 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยบริษัทผลิตหุ่นยนต์มีรายได้ต่อปีราว 100-150 ล้านบาท
ขณะที่นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.จี แคปปิตอล หรือ GCAP กล่าวว่า การลงนามร่วมกันจะช่วยเสริมจุดแข็งของธุรกิจทั้ง 2 ฝ่าย และเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่จะเป็นผลดีต่อเกษตรกรที่มีเครื่องที่ทันสมัย โดยบริษัทฯได้วางงบการปล่อยสินเชื่อไว้ราว 100 ล้านบาท ซึ่งถ้าหาก UREKA มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทางบริษัทฯก็มีความยินดีที่จะสนับสนุนในทุกผลิตภัณฑ์